โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 5682 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5682

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 5682 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 5682 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 947, 1894, 2841, 5682
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5682 ÷ 1=5682เหลือเศษ 0
5682 ÷ 2=2841เหลือเศษ 0
5682 ÷ 3=1894เหลือเศษ 0
5682 ÷ 6=947เหลือเศษ 0
5682 ÷ 947=6เหลือเศษ 0
5682 ÷ 1894=3เหลือเศษ 0
5682 ÷ 2841=2เหลือเศษ 0
5682 ÷ 5682=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5682
1 x 5682
2 x 2841
3 x 1894
6 x 947
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5682
1 + 2 + 3 + 6 + 947 + 1894 + 2841 + 5682 = 11376
ตัวประกอบของ 5682 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 947
การแยกตัวประกอบคืออะไร

5682 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

5682 = 2 x 3 x 947
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 5682 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5682 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5682 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2841
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5682
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5682 แบบที่หนึ่ง
  • 5682
    • 6
      • 2
      • 3
    • 947

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5682 แบบที่สอง
  • 5682
    • 2
    • 2841
      • 3
      • 947
ดังนั้น 5682 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5682 = 2 x 3 x 947

2. การแยกตัวประกอบของ 5682 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 5682 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5682 นั้นก็คือ 2, 3, 947 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5682

2
)5682
3
)2841
947
)947
1
ดังนั้น 5682 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5682 = 2 x 3 x 947

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5682

1แยกตัวประกอบของ 5682 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 9471
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 947 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5682 มีทั้งหมด 8 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5682 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇