ตัวประกอบของ 5083 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5083
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 5083 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 5083 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 5083 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 5083 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 5083 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 13, 17, 23, 221, 299, 391, 5083
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5083 ÷ 1 | = | 5083 | เหลือเศษ 0 |
5083 ÷ 13 | = | 391 | เหลือเศษ 0 |
5083 ÷ 17 | = | 299 | เหลือเศษ 0 |
5083 ÷ 23 | = | 221 | เหลือเศษ 0 |
5083 ÷ 221 | = | 23 | เหลือเศษ 0 |
5083 ÷ 299 | = | 17 | เหลือเศษ 0 |
5083 ÷ 391 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
5083 ÷ 5083 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5083
1 x 5083 | = | 5083 |
13 x 391 | = | 5083 |
17 x 299 | = | 5083 |
23 x 221 | = | 5083 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5083
1 + 13 + 17 + 23 + 221 + 299 + 391 + 5083 = 6048
▶ ตัวประกอบของ 5083 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
13, 17, 23
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 5083 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5083 = 13 x 17 x 23
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 5083 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5083 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5083 มา 1 คู่ เช่น 13 x 391
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5083
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5083 แบบที่หนึ่ง
- 5083
- 23
- 221
- 13
- 17
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5083 แบบที่สอง
- 5083
- 13
- 391
- 17
- 23
ดังนั้น 5083 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5083 =
13 x 17 x 23
2. การแยกตัวประกอบของ 5083 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 5083 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5083 นั้นก็คือ 13, 17, 23 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5083
13)508317)39123)231ดังนั้น 5083 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้5083 = 13 x 17 x 23วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5083
1แยกตัวประกอบของ 5083 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 131 x 171 x 2312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5083 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 5083 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5083 นั้นก็คือ 13, 17, 23 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5083
13
)5083
17
)391
23
)23
1
ดังนั้น 5083 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5083 = 13 x 17 x 23
1แยกตัวประกอบของ 5083 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 131 x 171 x 231
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5083 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5083 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇