โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 5005 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5005

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 5005 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 5005 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 5, 7, 11, 13, 35, 55, 65, 77, 91, 143, 385, 455, 715, 1001, 5005
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5005 ÷ 1=5005เหลือเศษ 0
5005 ÷ 5=1001เหลือเศษ 0
5005 ÷ 7=715เหลือเศษ 0
5005 ÷ 11=455เหลือเศษ 0
5005 ÷ 13=385เหลือเศษ 0
5005 ÷ 35=143เหลือเศษ 0
5005 ÷ 55=91เหลือเศษ 0
5005 ÷ 65=77เหลือเศษ 0
5005 ÷ 77=65เหลือเศษ 0
5005 ÷ 91=55เหลือเศษ 0
5005 ÷ 143=35เหลือเศษ 0
5005 ÷ 385=13เหลือเศษ 0
5005 ÷ 455=11เหลือเศษ 0
5005 ÷ 715=7เหลือเศษ 0
5005 ÷ 1001=5เหลือเศษ 0
5005 ÷ 5005=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5005
1 x 5005
5 x 1001
7 x 715
11 x 455
13 x 385
35 x 143
55 x 91
65 x 77
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5005
1 + 5 + 7 + 11 + 13 + 35 + 55 + 65 + 77 + 91 + 143 + 385 + 455 + 715 + 1001 + 5005 = 8064
ตัวประกอบของ 5005 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
5, 7, 11, 13
การแยกตัวประกอบคืออะไร

5005 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

5005 = 5 x 7 x 11 x 13
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 5005 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5005 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5005 มา 1 คู่ เช่น 5 x 1001
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5005
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5005 แบบที่หนึ่ง
  • 5005
    • 65
      • 5
      • 13
    • 77
      • 7
      • 11

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5005 แบบที่สอง
  • 5005
    • 5
    • 1001
      • 7
      • 143
        • 11
        • 13
ดังนั้น 5005 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5005 = 5 x 7 x 11 x 13

2. การแยกตัวประกอบของ 5005 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 5005 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5005 นั้นก็คือ 5, 7, 11, 13 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5005

5
)5005
7
)1001
11
)143
13
)13
1
ดังนั้น 5005 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5005 = 5 x 7 x 11 x 13

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5005

1แยกตัวประกอบของ 5005 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 71 x 111 x 131
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5005 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5005 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇