ตัวประกอบของ 4983 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 4983
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 4983 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 4983 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 4983 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 4983 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 4983 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 11, 33, 151, 453, 1661, 4983
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
4983 ÷ 1 | = | 4983 | เหลือเศษ 0 |
4983 ÷ 3 | = | 1661 | เหลือเศษ 0 |
4983 ÷ 11 | = | 453 | เหลือเศษ 0 |
4983 ÷ 33 | = | 151 | เหลือเศษ 0 |
4983 ÷ 151 | = | 33 | เหลือเศษ 0 |
4983 ÷ 453 | = | 11 | เหลือเศษ 0 |
4983 ÷ 1661 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
4983 ÷ 4983 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 4983
1 x 4983 | = | 4983 |
3 x 1661 | = | 4983 |
11 x 453 | = | 4983 |
33 x 151 | = | 4983 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 4983
1 + 3 + 11 + 33 + 151 + 453 + 1661 + 4983 = 7296
▶ ตัวประกอบของ 4983 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 11, 151
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 4983 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4983 = 3 x 11 x 151
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 4983 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 4983 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 4983 มา 1 คู่ เช่น 3 x 1661
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4983
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4983 แบบที่หนึ่ง
- 4983
- 33
- 3
- 11
- 151
- 33
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4983 แบบที่สอง
- 4983
- 3
- 1661
- 11
- 151
ดังนั้น 4983 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4983 =
3 x 11 x 151
2. การแยกตัวประกอบของ 4983 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 4983 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4983 นั้นก็คือ 3, 11, 151 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4983
3)498311)1661151)1511ดังนั้น 4983 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้4983 = 3 x 11 x 151วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 4983
1แยกตัวประกอบของ 4983 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 111 x 15112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 151 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4983 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 4983 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4983 นั้นก็คือ 3, 11, 151 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4983
3
)4983
11
)1661
151
)151
1
ดังนั้น 4983 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4983 = 3 x 11 x 151
1แยกตัวประกอบของ 4983 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 111 x 1511
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 151 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4983 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 4983 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇