โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 4875 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 4875

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 4875 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 4875 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 3, 5, 13, 15, 25, 39, 65, 75, 125, 195, 325, 375, 975, 1625, 4875
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
4875 ÷ 1=4875เหลือเศษ 0
4875 ÷ 3=1625เหลือเศษ 0
4875 ÷ 5=975เหลือเศษ 0
4875 ÷ 13=375เหลือเศษ 0
4875 ÷ 15=325เหลือเศษ 0
4875 ÷ 25=195เหลือเศษ 0
4875 ÷ 39=125เหลือเศษ 0
4875 ÷ 65=75เหลือเศษ 0
4875 ÷ 75=65เหลือเศษ 0
4875 ÷ 125=39เหลือเศษ 0
4875 ÷ 195=25เหลือเศษ 0
4875 ÷ 325=15เหลือเศษ 0
4875 ÷ 375=13เหลือเศษ 0
4875 ÷ 975=5เหลือเศษ 0
4875 ÷ 1625=3เหลือเศษ 0
4875 ÷ 4875=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 4875
1 x 4875
3 x 1625
5 x 975
13 x 375
15 x 325
25 x 195
39 x 125
65 x 75
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 4875
1 + 3 + 5 + 13 + 15 + 25 + 39 + 65 + 75 + 125 + 195 + 325 + 375 + 975 + 1625 + 4875 = 8736
ตัวประกอบของ 4875 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 5, 13
การแยกตัวประกอบคืออะไร

4875 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

4875 = 3 x 5 x 5 x 5 x 13
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 4875 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
4875 = 3 x 53 x 13
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 4875 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 4875 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 4875 มา 1 คู่ เช่น 3 x 1625
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4875
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4875 แบบที่หนึ่ง
  • 4875
    • 65
      • 5
      • 13
    • 75
      • 5
      • 15
        • 3
        • 5

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4875 แบบที่สอง
  • 4875
    • 3
    • 1625
      • 5
      • 325
        • 5
        • 65
          • 5
          • 13
ดังนั้น 4875 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4875 = 3 x 5 x 5 x 5 x 13
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
4875 = 3 x 53 x 13 หรือ 31 x 53 x 131

2. การแยกตัวประกอบของ 4875 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 4875 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4875 นั้นก็คือ 3, 5, 13 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4875

3
)4875
5
)1625
5
)325
5
)65
13
)13
1
ดังนั้น 4875 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4875 = 3 x 5 x 5 x 5 x 13
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
4875 = 3 x 53 x 13 หรือ 31 x 53 x 131

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 4875

1แยกตัวประกอบของ 4875 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 53 x 131
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 4 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4875 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 4875 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇