โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 4383 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 4383

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 4383 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 4383 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 3, 9, 487, 1461, 4383
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
4383 ÷ 1=4383เหลือเศษ 0
4383 ÷ 3=1461เหลือเศษ 0
4383 ÷ 9=487เหลือเศษ 0
4383 ÷ 487=9เหลือเศษ 0
4383 ÷ 1461=3เหลือเศษ 0
4383 ÷ 4383=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 4383
1 x 4383
3 x 1461
9 x 487
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 4383
1 + 3 + 9 + 487 + 1461 + 4383 = 6344
ตัวประกอบของ 4383 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
3, 487
การแยกตัวประกอบคืออะไร

4383 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

4383 = 3 x 3 x 487
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 4383 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
4383 = 32 x 487
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 4383 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 4383 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 4383 มา 1 คู่ เช่น 3 x 1461
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4383
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4383 แบบที่หนึ่ง
  • 4383
    • 9
      • 3
      • 3
    • 487

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4383 แบบที่สอง
  • 4383
    • 3
    • 1461
      • 3
      • 487
ดังนั้น 4383 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4383 = 3 x 3 x 487
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
4383 = 32 x 487 หรือ 32 x 4871

2. การแยกตัวประกอบของ 4383 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 4383 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4383 นั้นก็คือ 3, 487 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4383

3
)4383
3
)1461
487
)487
1
ดังนั้น 4383 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4383 = 3 x 3 x 487
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
4383 = 32 x 487 หรือ 32 x 4871

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 4383

1แยกตัวประกอบของ 4383 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 32 x 4871
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 487 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4383 มีทั้งหมด 6 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 4383 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇