โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 4386 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 4386

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 4386 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 4386 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 17, 34, 43, 51, 86, 102, 129, 258, 731, 1462, 2193, 4386
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
4386 ÷ 1=4386เหลือเศษ 0
4386 ÷ 2=2193เหลือเศษ 0
4386 ÷ 3=1462เหลือเศษ 0
4386 ÷ 6=731เหลือเศษ 0
4386 ÷ 17=258เหลือเศษ 0
4386 ÷ 34=129เหลือเศษ 0
4386 ÷ 43=102เหลือเศษ 0
4386 ÷ 51=86เหลือเศษ 0
4386 ÷ 86=51เหลือเศษ 0
4386 ÷ 102=43เหลือเศษ 0
4386 ÷ 129=34เหลือเศษ 0
4386 ÷ 258=17เหลือเศษ 0
4386 ÷ 731=6เหลือเศษ 0
4386 ÷ 1462=3เหลือเศษ 0
4386 ÷ 2193=2เหลือเศษ 0
4386 ÷ 4386=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 4386
1 x 4386
2 x 2193
3 x 1462
6 x 731
17 x 258
34 x 129
43 x 102
51 x 86
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 4386
1 + 2 + 3 + 6 + 17 + 34 + 43 + 51 + 86 + 102 + 129 + 258 + 731 + 1462 + 2193 + 4386 = 9504
ตัวประกอบของ 4386 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 3, 17, 43
การแยกตัวประกอบคืออะไร

4386 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

4386 = 2 x 3 x 17 x 43
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 4386 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 4386 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 4386 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2193
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4386
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4386 แบบที่หนึ่ง
  • 4386
    • 51
      • 3
      • 17
    • 86
      • 2
      • 43

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4386 แบบที่สอง
  • 4386
    • 2
    • 2193
      • 3
      • 731
        • 17
        • 43
ดังนั้น 4386 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4386 = 2 x 3 x 17 x 43

2. การแยกตัวประกอบของ 4386 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 4386 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4386 นั้นก็คือ 2, 3, 17, 43 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4386

2
)4386
3
)2193
17
)731
43
)43
1
ดังนั้น 4386 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4386 = 2 x 3 x 17 x 43

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 4386

1แยกตัวประกอบของ 4386 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 171 x 431
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 43 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4386 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 4386 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇