โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 3380 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 3380

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 3380 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 3380 มีทั้งหมด 18 ตัวคือ 1, 2, 4, 5, 10, 13, 20, 26, 52, 65, 130, 169, 260, 338, 676, 845, 1690, 3380
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
3380 ÷ 1=3380เหลือเศษ 0
3380 ÷ 2=1690เหลือเศษ 0
3380 ÷ 4=845เหลือเศษ 0
3380 ÷ 5=676เหลือเศษ 0
3380 ÷ 10=338เหลือเศษ 0
3380 ÷ 13=260เหลือเศษ 0
3380 ÷ 20=169เหลือเศษ 0
3380 ÷ 26=130เหลือเศษ 0
3380 ÷ 52=65เหลือเศษ 0
3380 ÷ 65=52เหลือเศษ 0
3380 ÷ 130=26เหลือเศษ 0
3380 ÷ 169=20เหลือเศษ 0
3380 ÷ 260=13เหลือเศษ 0
3380 ÷ 338=10เหลือเศษ 0
3380 ÷ 676=5เหลือเศษ 0
3380 ÷ 845=4เหลือเศษ 0
3380 ÷ 1690=2เหลือเศษ 0
3380 ÷ 3380=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 3380
1 x 3380
2 x 1690
4 x 845
5 x 676
10 x 338
13 x 260
20 x 169
26 x 130
52 x 65
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 3380
1 + 2 + 4 + 5 + 10 + 13 + 20 + 26 + 52 + 65 + 130 + 169 + 260 + 338 + 676 + 845 + 1690 + 3380 = 7686
ตัวประกอบของ 3380 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 5, 13
การแยกตัวประกอบคืออะไร

3380 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

3380 = 2 x 2 x 5 x 13 x 13
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 3380 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
3380 = 22 x 5 x 132
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 3380 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 3380 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 3380 มา 1 คู่ เช่น 2 x 1690
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3380
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 3380 แบบที่หนึ่ง
  • 3380
    • 52
      • 4
        • 2
        • 2
      • 13
    • 65
      • 5
      • 13

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 3380 แบบที่สอง
  • 3380
    • 2
    • 1690
      • 2
      • 845
        • 5
        • 169
          • 13
          • 13
ดังนั้น 3380 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3380 = 2 x 2 x 5 x 13 x 13
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
3380 = 22 x 5 x 132 หรือ 22 x 51 x 132

2. การแยกตัวประกอบของ 3380 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 3380 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 3380 นั้นก็คือ 2, 5, 13 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 3380

2
)3380
2
)1690
5
)845
13
)169
13
)13
1
ดังนั้น 3380 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
3380 = 2 x 2 x 5 x 13 x 13
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
3380 = 22 x 5 x 132 หรือ 22 x 51 x 132

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 3380

1แยกตัวประกอบของ 3380 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 51 x 132
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 3 = 18
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 3380 มีทั้งหมด 18 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 3380 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇