ตัวประกอบของ 2656 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 2656
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 2656 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 2656 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 2656 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 2656 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 2656 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 2, 4, 8, 16, 32, 83, 166, 332, 664, 1328, 2656
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
2656 ÷ 1 | = | 2656 | เหลือเศษ 0 |
2656 ÷ 2 | = | 1328 | เหลือเศษ 0 |
2656 ÷ 4 | = | 664 | เหลือเศษ 0 |
2656 ÷ 8 | = | 332 | เหลือเศษ 0 |
2656 ÷ 16 | = | 166 | เหลือเศษ 0 |
2656 ÷ 32 | = | 83 | เหลือเศษ 0 |
2656 ÷ 83 | = | 32 | เหลือเศษ 0 |
2656 ÷ 166 | = | 16 | เหลือเศษ 0 |
2656 ÷ 332 | = | 8 | เหลือเศษ 0 |
2656 ÷ 664 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
2656 ÷ 1328 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
2656 ÷ 2656 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 2656
1 x 2656 | = | 2656 |
2 x 1328 | = | 2656 |
4 x 664 | = | 2656 |
8 x 332 | = | 2656 |
16 x 166 | = | 2656 |
32 x 83 | = | 2656 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 2656
1 + 2 + 4 + 8 + 16 + 32 + 83 + 166 + 332 + 664 + 1328 + 2656 = 5292
▶ ตัวประกอบของ 2656 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 83
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 2656 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2656 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 83
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 2656 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
2656 = 25 x 83
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 2656 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
2656 = 25 x 83
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 2656 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 2656 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 2656 มา 1 คู่ เช่น 2 x 1328
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2656
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2656 แบบที่หนึ่ง
- 2656
- 32
- 4
- 2
- 2
- 8
- 2
- 4
- 2
- 2
- 4
- 83
- 32
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2656 แบบที่สอง
- 2656
- 2
- 1328
- 2
- 664
- 2
- 332
- 2
- 166
- 2
- 83
ดังนั้น 2656 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2656 =
2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 83
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
2656 =
25 x 83 หรือ 25 x 831
2. การแยกตัวประกอบของ 2656 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 2656 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 2656 นั้นก็คือ 2, 83 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2656
2)26562)13282)6642)3322)16683)831ดังนั้น 2656 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้2656 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 83หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง2656 = 25 x 83 หรือ 25 x 831วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 2656
1แยกตัวประกอบของ 2656 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 25 x 8312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 5 ให้เอา 5 + 1 = 6
- 👉 83 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 6 x 2 = 12✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 2656 มีทั้งหมด 12 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 2656 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 2656 นั้นก็คือ 2, 83 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2656
2
)2656
2
)1328
2
)664
2
)332
2
)166
83
)83
1
ดังนั้น 2656 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2656 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 83
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
2656 = 25 x 83 หรือ 25 x 831
1แยกตัวประกอบของ 2656 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 25 x 831
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 5 ให้เอา 5 + 1 = 6
- 👉 83 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 6 x 2 = 12✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 2656 มีทั้งหมด 12 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 2656 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇