ตัวประกอบของ 2650 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 2650
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 2650 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 2650 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 2650 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 2650 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 2650 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 2, 5, 10, 25, 50, 53, 106, 265, 530, 1325, 2650
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
2650 ÷ 1 | = | 2650 | เหลือเศษ 0 |
2650 ÷ 2 | = | 1325 | เหลือเศษ 0 |
2650 ÷ 5 | = | 530 | เหลือเศษ 0 |
2650 ÷ 10 | = | 265 | เหลือเศษ 0 |
2650 ÷ 25 | = | 106 | เหลือเศษ 0 |
2650 ÷ 50 | = | 53 | เหลือเศษ 0 |
2650 ÷ 53 | = | 50 | เหลือเศษ 0 |
2650 ÷ 106 | = | 25 | เหลือเศษ 0 |
2650 ÷ 265 | = | 10 | เหลือเศษ 0 |
2650 ÷ 530 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
2650 ÷ 1325 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
2650 ÷ 2650 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 2650
1 x 2650 | = | 2650 |
2 x 1325 | = | 2650 |
5 x 530 | = | 2650 |
10 x 265 | = | 2650 |
25 x 106 | = | 2650 |
50 x 53 | = | 2650 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 2650
1 + 2 + 5 + 10 + 25 + 50 + 53 + 106 + 265 + 530 + 1325 + 2650 = 5022
▶ ตัวประกอบของ 2650 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 5, 53
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 2650 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2650 = 2 x 5 x 5 x 53
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 2650 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
2650 = 2 x 52 x 53
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเเขียนการแยกตัวประกอบของ 2650 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
2650 = 2 x 52 x 53
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 2650 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 2650 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 2650 มา 1 คู่ เช่น 2 x 1325
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2650
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2650 แบบที่หนึ่ง
- 2650
- 50
- 5
- 10
- 2
- 5
- 53
- 50
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2650 แบบที่สอง
- 2650
- 2
- 1325
- 5
- 265
- 5
- 53
ดังนั้น 2650 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2650 =
2 x 5 x 5 x 53
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
2650 =
2 x 52 x 53 หรือ 21 x 52 x 531
2. การแยกตัวประกอบของ 2650 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 2650 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 2650 นั้นก็คือ 2, 5, 53 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2650
2)26505)13255)26553)531ดังนั้น 2650 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้2650 = 2 x 5 x 5 x 53หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง2650 = 2 x 52 x 53 หรือ 21 x 52 x 531วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 2650
1แยกตัวประกอบของ 2650 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 52 x 5312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 53 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 = 12✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 2650 มีทั้งหมด 12 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 2650 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 2650 นั้นก็คือ 2, 5, 53 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2650
2
)2650
5
)1325
5
)265
53
)53
1
ดังนั้น 2650 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2650 = 2 x 5 x 5 x 53
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
2650 = 2 x 52 x 53 หรือ 21 x 52 x 531
1แยกตัวประกอบของ 2650 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 52 x 531
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 53 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 = 12✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 2650 มีทั้งหมด 12 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 2650 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇