โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 26516 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26516

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 26516 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 26516 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 2, 4, 7, 14, 28, 947, 1894, 3788, 6629, 13258, 26516
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
26516 ÷ 1=26516เหลือเศษ 0
26516 ÷ 2=13258เหลือเศษ 0
26516 ÷ 4=6629เหลือเศษ 0
26516 ÷ 7=3788เหลือเศษ 0
26516 ÷ 14=1894เหลือเศษ 0
26516 ÷ 28=947เหลือเศษ 0
26516 ÷ 947=28เหลือเศษ 0
26516 ÷ 1894=14เหลือเศษ 0
26516 ÷ 3788=7เหลือเศษ 0
26516 ÷ 6629=4เหลือเศษ 0
26516 ÷ 13258=2เหลือเศษ 0
26516 ÷ 26516=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26516
1 x 26516
2 x 13258
4 x 6629
7 x 3788
14 x 1894
28 x 947
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26516
1 + 2 + 4 + 7 + 14 + 28 + 947 + 1894 + 3788 + 6629 + 13258 + 26516 = 53088
ตัวประกอบของ 26516 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 7, 947
การแยกตัวประกอบคืออะไร

26516 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

26516 = 2 x 2 x 7 x 947
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 26516 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
26516 = 22 x 7 x 947
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 26516 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26516 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26516 มา 1 คู่ เช่น 2 x 13258
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26516
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26516 แบบที่หนึ่ง
  • 26516
    • 28
      • 4
        • 2
        • 2
      • 7
    • 947

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26516 แบบที่สอง
  • 26516
    • 2
    • 13258
      • 2
      • 6629
        • 7
        • 947
ดังนั้น 26516 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26516 = 2 x 2 x 7 x 947
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26516 = 22 x 7 x 947 หรือ 22 x 71 x 9471

2. การแยกตัวประกอบของ 26516 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 26516 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26516 นั้นก็คือ 2, 7, 947 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26516

2
)26516
2
)13258
7
)6629
947
)947
1
ดังนั้น 26516 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26516 = 2 x 2 x 7 x 947
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26516 = 22 x 7 x 947 หรือ 22 x 71 x 9471

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26516

1แยกตัวประกอบของ 26516 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 71 x 9471
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 947 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 = 12
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26516 มีทั้งหมด 12 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26516 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇