ตัวประกอบของ 26506 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26506
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 26506 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 26506 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 26506 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 26506 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 26506 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 29, 58, 457, 914, 13253, 26506
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 26506 ÷ 1 | = | 26506 | เหลือเศษ 0 |
| 26506 ÷ 2 | = | 13253 | เหลือเศษ 0 |
| 26506 ÷ 29 | = | 914 | เหลือเศษ 0 |
| 26506 ÷ 58 | = | 457 | เหลือเศษ 0 |
| 26506 ÷ 457 | = | 58 | เหลือเศษ 0 |
| 26506 ÷ 914 | = | 29 | เหลือเศษ 0 |
| 26506 ÷ 13253 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 26506 ÷ 26506 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26506
| 1 x 26506 | = | 26506 |
| 2 x 13253 | = | 26506 |
| 29 x 914 | = | 26506 |
| 58 x 457 | = | 26506 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26506
1 + 2 + 29 + 58 + 457 + 914 + 13253 + 26506 = 41220
▶ ตัวประกอบของ 26506 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 29, 457
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 26506 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26506 = 2 x 29 x 457
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 26506 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26506 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26506 มา 1 คู่ เช่น 2 x 13253
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26506
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26506 แบบที่หนึ่ง
- 26506
- 58
- 2
- 29
- 457
- 58
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26506 แบบที่สอง
- 26506
- 2
- 13253
- 29
- 457
ดังนั้น 26506 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26506 =
2 x 29 x 457
2. การแยกตัวประกอบของ 26506 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 26506 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26506 นั้นก็คือ 2, 29, 457 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26506
2)2650629)13253457)4571ดังนั้น 26506 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้26506 = 2 x 29 x 457วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26506
1แยกตัวประกอบของ 26506 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 291 x 45712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 457 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26506 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 26506 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26506 นั้นก็คือ 2, 29, 457 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26506
2
)26506
29
)13253
457
)457
1
ดังนั้น 26506 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26506 = 2 x 29 x 457
1แยกตัวประกอบของ 26506 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 291 x 4571
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 457 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26506 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26506 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇