ตัวประกอบของ 26315 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26315
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 26315 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 26315 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 26315 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 26315 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 26315 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 5, 19, 95, 277, 1385, 5263, 26315
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 26315 ÷ 1 | = | 26315 | เหลือเศษ 0 |
| 26315 ÷ 5 | = | 5263 | เหลือเศษ 0 |
| 26315 ÷ 19 | = | 1385 | เหลือเศษ 0 |
| 26315 ÷ 95 | = | 277 | เหลือเศษ 0 |
| 26315 ÷ 277 | = | 95 | เหลือเศษ 0 |
| 26315 ÷ 1385 | = | 19 | เหลือเศษ 0 |
| 26315 ÷ 5263 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
| 26315 ÷ 26315 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26315
| 1 x 26315 | = | 26315 |
| 5 x 5263 | = | 26315 |
| 19 x 1385 | = | 26315 |
| 95 x 277 | = | 26315 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26315
1 + 5 + 19 + 95 + 277 + 1385 + 5263 + 26315 = 33360
▶ ตัวประกอบของ 26315 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
5, 19, 277
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 26315 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26315 = 5 x 19 x 277
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 26315 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26315 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26315 มา 1 คู่ เช่น 5 x 5263
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26315
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26315 แบบที่หนึ่ง
- 26315
- 95
- 5
- 19
- 277
- 95
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26315 แบบที่สอง
- 26315
- 5
- 5263
- 19
- 277
ดังนั้น 26315 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26315 =
5 x 19 x 277
2. การแยกตัวประกอบของ 26315 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 26315 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26315 นั้นก็คือ 5, 19, 277 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26315
5)2631519)5263277)2771ดังนั้น 26315 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้26315 = 5 x 19 x 277วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26315
1แยกตัวประกอบของ 26315 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 191 x 27712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 277 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26315 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 26315 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26315 นั้นก็คือ 5, 19, 277 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26315
5
)26315
19
)5263
277
)277
1
ดังนั้น 26315 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26315 = 5 x 19 x 277
1แยกตัวประกอบของ 26315 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 191 x 2771
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 19 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 277 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26315 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26315 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
