ตัวประกอบของ 26253 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 26253
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 26253 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 26253 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 26253 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 26253 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 26253 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 3, 9, 2917, 8751, 26253
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 26253 ÷ 1 | = | 26253 | เหลือเศษ 0 |
| 26253 ÷ 3 | = | 8751 | เหลือเศษ 0 |
| 26253 ÷ 9 | = | 2917 | เหลือเศษ 0 |
| 26253 ÷ 2917 | = | 9 | เหลือเศษ 0 |
| 26253 ÷ 8751 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 26253 ÷ 26253 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 26253
| 1 x 26253 | = | 26253 |
| 3 x 8751 | = | 26253 |
| 9 x 2917 | = | 26253 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 26253
1 + 3 + 9 + 2917 + 8751 + 26253 = 37934
▶ ตัวประกอบของ 26253 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
3, 2917
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 26253 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26253 = 3 x 3 x 2917
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 26253 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
26253 = 32 x 2917
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 26253 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
26253 = 32 x 2917
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 26253 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 26253 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 26253 มา 1 คู่ เช่น 3 x 8751
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26253
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26253 แบบที่หนึ่ง
- 26253
- 9
- 3
- 3
- 2917
- 9
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 26253 แบบที่สอง
- 26253
- 3
- 8751
- 3
- 2917
ดังนั้น 26253 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26253 =
3 x 3 x 2917
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26253 =
32 x 2917 หรือ 32 x 29171
2. การแยกตัวประกอบของ 26253 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 26253 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26253 นั้นก็คือ 3, 2917 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26253
3)262533)87512917)29171ดังนั้น 26253 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้26253 = 3 x 3 x 2917หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง26253 = 32 x 2917 หรือ 32 x 29171วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 26253
1แยกตัวประกอบของ 26253 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 32 x 291712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 2917 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26253 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 26253 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 26253 นั้นก็คือ 3, 2917 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 26253
3
)26253
3
)8751
2917
)2917
1
ดังนั้น 26253 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
26253 = 3 x 3 x 2917
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
26253 = 32 x 2917 หรือ 32 x 29171
1แยกตัวประกอบของ 26253 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 32 x 29171
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 2917 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 26253 มีทั้งหมด 6 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 26253 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
