ตัวประกอบของ 2607 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 2607
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 2607 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 2607 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 2607 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 2607 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 2607 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 11, 33, 79, 237, 869, 2607
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 2607 ÷ 1 | = | 2607 | เหลือเศษ 0 |
| 2607 ÷ 3 | = | 869 | เหลือเศษ 0 |
| 2607 ÷ 11 | = | 237 | เหลือเศษ 0 |
| 2607 ÷ 33 | = | 79 | เหลือเศษ 0 |
| 2607 ÷ 79 | = | 33 | เหลือเศษ 0 |
| 2607 ÷ 237 | = | 11 | เหลือเศษ 0 |
| 2607 ÷ 869 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 2607 ÷ 2607 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 2607
| 1 x 2607 | = | 2607 |
| 3 x 869 | = | 2607 |
| 11 x 237 | = | 2607 |
| 33 x 79 | = | 2607 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 2607
1 + 3 + 11 + 33 + 79 + 237 + 869 + 2607 = 3840
▶ ตัวประกอบของ 2607 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 11, 79
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 2607 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2607 = 3 x 11 x 79
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 2607 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 2607 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 2607 มา 1 คู่ เช่น 3 x 869
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2607
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2607 แบบที่หนึ่ง
- 2607
- 33
- 3
- 11
- 79
- 33
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2607 แบบที่สอง
- 2607
- 3
- 869
- 11
- 79
ดังนั้น 2607 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2607 =
3 x 11 x 79
2. การแยกตัวประกอบของ 2607 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 2607 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 2607 นั้นก็คือ 3, 11, 79 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2607
3)260711)86979)791ดังนั้น 2607 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้2607 = 3 x 11 x 79วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 2607
1แยกตัวประกอบของ 2607 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 111 x 7912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 79 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 2607 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 2607 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 2607 นั้นก็คือ 3, 11, 79 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2607
3
)2607
11
)869
79
)79
1
ดังนั้น 2607 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2607 = 3 x 11 x 79
1แยกตัวประกอบของ 2607 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 111 x 791
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 79 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 2607 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 2607 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇