ตัวประกอบของ 2613 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 2613
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 2613 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 2613 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 2613 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 2613 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 2613 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 13, 39, 67, 201, 871, 2613
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
2613 ÷ 1 | = | 2613 | เหลือเศษ 0 |
2613 ÷ 3 | = | 871 | เหลือเศษ 0 |
2613 ÷ 13 | = | 201 | เหลือเศษ 0 |
2613 ÷ 39 | = | 67 | เหลือเศษ 0 |
2613 ÷ 67 | = | 39 | เหลือเศษ 0 |
2613 ÷ 201 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
2613 ÷ 871 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
2613 ÷ 2613 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 2613
1 x 2613 | = | 2613 |
3 x 871 | = | 2613 |
13 x 201 | = | 2613 |
39 x 67 | = | 2613 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 2613
1 + 3 + 13 + 39 + 67 + 201 + 871 + 2613 = 3808
▶ ตัวประกอบของ 2613 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 13, 67
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 2613 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2613 = 3 x 13 x 67
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 2613 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 2613 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 2613 มา 1 คู่ เช่น 3 x 871
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2613
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2613 แบบที่หนึ่ง
- 2613
- 39
- 3
- 13
- 67
- 39
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2613 แบบที่สอง
- 2613
- 3
- 871
- 13
- 67
ดังนั้น 2613 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2613 =
3 x 13 x 67
2. การแยกตัวประกอบของ 2613 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 2613 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 2613 นั้นก็คือ 3, 13, 67 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2613
3)261313)87167)671ดังนั้น 2613 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้2613 = 3 x 13 x 67วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 2613
1แยกตัวประกอบของ 2613 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 131 x 6712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 67 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 2613 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 2613 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 2613 นั้นก็คือ 3, 13, 67 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2613
3
)2613
13
)871
67
)67
1
ดังนั้น 2613 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2613 = 3 x 13 x 67
1แยกตัวประกอบของ 2613 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 131 x 671
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 67 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 2613 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 2613 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇