ตัวประกอบของ 25174 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25174
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 25174 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 25174 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 25174 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 25174 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 25174 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 41, 82, 307, 614, 12587, 25174
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
25174 ÷ 1 | = | 25174 | เหลือเศษ 0 |
25174 ÷ 2 | = | 12587 | เหลือเศษ 0 |
25174 ÷ 41 | = | 614 | เหลือเศษ 0 |
25174 ÷ 82 | = | 307 | เหลือเศษ 0 |
25174 ÷ 307 | = | 82 | เหลือเศษ 0 |
25174 ÷ 614 | = | 41 | เหลือเศษ 0 |
25174 ÷ 12587 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
25174 ÷ 25174 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25174
1 x 25174 | = | 25174 |
2 x 12587 | = | 25174 |
41 x 614 | = | 25174 |
82 x 307 | = | 25174 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25174
1 + 2 + 41 + 82 + 307 + 614 + 12587 + 25174 = 38808
▶ ตัวประกอบของ 25174 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 41, 307
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 25174 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25174 = 2 x 41 x 307
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 25174 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25174 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25174 มา 1 คู่ เช่น 2 x 12587
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25174
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25174 แบบที่หนึ่ง
- 25174
- 82
- 2
- 41
- 307
- 82
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25174 แบบที่สอง
- 25174
- 2
- 12587
- 41
- 307
ดังนั้น 25174 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25174 =
2 x 41 x 307
2. การแยกตัวประกอบของ 25174 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 25174 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25174 นั้นก็คือ 2, 41, 307 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25174
2)2517441)12587307)3071ดังนั้น 25174 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้25174 = 2 x 41 x 307วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25174
1แยกตัวประกอบของ 25174 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 411 x 30712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 41 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 307 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25174 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 25174 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25174 นั้นก็คือ 2, 41, 307 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25174
2
)25174
41
)12587
307
)307
1
ดังนั้น 25174 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25174 = 2 x 41 x 307
1แยกตัวประกอบของ 25174 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 411 x 3071
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 41 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 307 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25174 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25174 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇