ตัวประกอบของ 25047 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25047
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 25047 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 25047 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 25047 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 25047 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 25047 มีทั้งหมด 18 ตัวคือ 1, 3, 9, 11, 23, 33, 69, 99, 121, 207, 253, 363, 759, 1089, 2277, 2783, 8349, 25047
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 25047 ÷ 1 | = | 25047 | เหลือเศษ 0 |
| 25047 ÷ 3 | = | 8349 | เหลือเศษ 0 |
| 25047 ÷ 9 | = | 2783 | เหลือเศษ 0 |
| 25047 ÷ 11 | = | 2277 | เหลือเศษ 0 |
| 25047 ÷ 23 | = | 1089 | เหลือเศษ 0 |
| 25047 ÷ 33 | = | 759 | เหลือเศษ 0 |
| 25047 ÷ 69 | = | 363 | เหลือเศษ 0 |
| 25047 ÷ 99 | = | 253 | เหลือเศษ 0 |
| 25047 ÷ 121 | = | 207 | เหลือเศษ 0 |
| 25047 ÷ 207 | = | 121 | เหลือเศษ 0 |
| 25047 ÷ 253 | = | 99 | เหลือเศษ 0 |
| 25047 ÷ 363 | = | 69 | เหลือเศษ 0 |
| 25047 ÷ 759 | = | 33 | เหลือเศษ 0 |
| 25047 ÷ 1089 | = | 23 | เหลือเศษ 0 |
| 25047 ÷ 2277 | = | 11 | เหลือเศษ 0 |
| 25047 ÷ 2783 | = | 9 | เหลือเศษ 0 |
| 25047 ÷ 8349 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 25047 ÷ 25047 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25047
| 1 x 25047 | = | 25047 |
| 3 x 8349 | = | 25047 |
| 9 x 2783 | = | 25047 |
| 11 x 2277 | = | 25047 |
| 23 x 1089 | = | 25047 |
| 33 x 759 | = | 25047 |
| 69 x 363 | = | 25047 |
| 99 x 253 | = | 25047 |
| 121 x 207 | = | 25047 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25047
1 + 3 + 9 + 11 + 23 + 33 + 69 + 99 + 121 + 207 + 253 + 363 + 759 + 1089 + 2277 + 2783 + 8349 + 25047 = 41496
▶ ตัวประกอบของ 25047 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 11, 23
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 25047 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25047 = 3 x 3 x 11 x 11 x 23
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 25047 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
25047 = 32 x 112 x 23
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 25047 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
25047 = 32 x 112 x 23
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 25047 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25047 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25047 มา 1 คู่ เช่น 3 x 8349
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25047
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25047 แบบที่หนึ่ง
- 25047
- 121
- 11
- 11
- 207
- 9
- 3
- 3
- 23
- 9
- 121
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25047 แบบที่สอง
- 25047
- 3
- 8349
- 3
- 2783
- 11
- 253
- 11
- 23
ดังนั้น 25047 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25047 =
3 x 3 x 11 x 11 x 23
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25047 =
32 x 112 x 23 หรือ 32 x 112 x 231
2. การแยกตัวประกอบของ 25047 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 25047 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25047 นั้นก็คือ 3, 11, 23 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25047
3)250473)834911)278311)25323)231ดังนั้น 25047 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้25047 = 3 x 3 x 11 x 11 x 23หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง25047 = 32 x 112 x 23 หรือ 32 x 112 x 231วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25047
1แยกตัวประกอบของ 25047 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 32 x 112 x 2312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 3 x 2 = 18✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25047 มีทั้งหมด 18 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 25047 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25047 นั้นก็คือ 3, 11, 23 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25047
3
)25047
3
)8349
11
)2783
11
)253
23
)23
1
ดังนั้น 25047 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25047 = 3 x 3 x 11 x 11 x 23
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
25047 = 32 x 112 x 23 หรือ 32 x 112 x 231
1แยกตัวประกอบของ 25047 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 32 x 112 x 231
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 3 x 2 = 18✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25047 มีทั้งหมด 18 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25047 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
