ตัวประกอบของ 25030 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 25030
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 25030 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 25030 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 25030 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 25030 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 25030 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 5, 10, 2503, 5006, 12515, 25030
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
25030 ÷ 1 | = | 25030 | เหลือเศษ 0 |
25030 ÷ 2 | = | 12515 | เหลือเศษ 0 |
25030 ÷ 5 | = | 5006 | เหลือเศษ 0 |
25030 ÷ 10 | = | 2503 | เหลือเศษ 0 |
25030 ÷ 2503 | = | 10 | เหลือเศษ 0 |
25030 ÷ 5006 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
25030 ÷ 12515 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
25030 ÷ 25030 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 25030
1 x 25030 | = | 25030 |
2 x 12515 | = | 25030 |
5 x 5006 | = | 25030 |
10 x 2503 | = | 25030 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 25030
1 + 2 + 5 + 10 + 2503 + 5006 + 12515 + 25030 = 45072
▶ ตัวประกอบของ 25030 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 5, 2503
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 25030 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25030 = 2 x 5 x 2503
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 25030 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 25030 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 25030 มา 1 คู่ เช่น 2 x 12515
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25030
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25030 แบบที่หนึ่ง
- 25030
- 10
- 2
- 5
- 2503
- 10
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 25030 แบบที่สอง
- 25030
- 2
- 12515
- 5
- 2503
ดังนั้น 25030 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25030 =
2 x 5 x 2503
2. การแยกตัวประกอบของ 25030 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 25030 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25030 นั้นก็คือ 2, 5, 2503 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25030
2)250305)125152503)25031ดังนั้น 25030 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้25030 = 2 x 5 x 2503วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 25030
1แยกตัวประกอบของ 25030 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 51 x 250312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 2503 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25030 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 25030 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 25030 นั้นก็คือ 2, 5, 2503 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 25030
2
)25030
5
)12515
2503
)2503
1
ดังนั้น 25030 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
25030 = 2 x 5 x 2503
1แยกตัวประกอบของ 25030 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 51 x 25031
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 2503 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 25030 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 25030 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇