โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 23488 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 23488

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 23488 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 23488 มีทั้งหมด 14 ตัวคือ 1, 2, 4, 8, 16, 32, 64, 367, 734, 1468, 2936, 5872, 11744, 23488
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
23488 ÷ 1=23488เหลือเศษ 0
23488 ÷ 2=11744เหลือเศษ 0
23488 ÷ 4=5872เหลือเศษ 0
23488 ÷ 8=2936เหลือเศษ 0
23488 ÷ 16=1468เหลือเศษ 0
23488 ÷ 32=734เหลือเศษ 0
23488 ÷ 64=367เหลือเศษ 0
23488 ÷ 367=64เหลือเศษ 0
23488 ÷ 734=32เหลือเศษ 0
23488 ÷ 1468=16เหลือเศษ 0
23488 ÷ 2936=8เหลือเศษ 0
23488 ÷ 5872=4เหลือเศษ 0
23488 ÷ 11744=2เหลือเศษ 0
23488 ÷ 23488=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 23488
1 x 23488
2 x 11744
4 x 5872
8 x 2936
16 x 1468
32 x 734
64 x 367
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 23488
1 + 2 + 4 + 8 + 16 + 32 + 64 + 367 + 734 + 1468 + 2936 + 5872 + 11744 + 23488 = 46736
ตัวประกอบของ 23488 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 367
การแยกตัวประกอบคืออะไร

23488 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

23488 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 367
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 23488 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
23488 = 26 x 367
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 23488 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 23488 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 23488 มา 1 คู่ เช่น 2 x 11744
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 23488
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 23488 แบบที่หนึ่ง
  • 23488
    • 64
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
    • 367

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 23488 แบบที่สอง
  • 23488
    • 2
    • 11744
      • 2
      • 5872
        • 2
        • 2936
          • 2
          • 1468
            • 2
            • 734
              • 2
              • 367
ดังนั้น 23488 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
23488 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 367
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
23488 = 26 x 367 หรือ 26 x 3671

2. การแยกตัวประกอบของ 23488 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 23488 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 23488 นั้นก็คือ 2, 367 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 23488

2
)23488
2
)11744
2
)5872
2
)2936
2
)1468
2
)734
367
)367
1
ดังนั้น 23488 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
23488 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 367
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
23488 = 26 x 367 หรือ 26 x 3671

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 23488

1แยกตัวประกอบของ 23488 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 26 x 3671
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 6 ให้เอา 6 + 1 = 7
  • 👉 367 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 7 x 2 = 14
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 23488 มีทั้งหมด 14 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 23488 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇