ตัวประกอบของ 2230 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 2230
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 2230 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 2230 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 2230 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 2230 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 2230 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 5, 10, 223, 446, 1115, 2230
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
2230 ÷ 1 | = | 2230 | เหลือเศษ 0 |
2230 ÷ 2 | = | 1115 | เหลือเศษ 0 |
2230 ÷ 5 | = | 446 | เหลือเศษ 0 |
2230 ÷ 10 | = | 223 | เหลือเศษ 0 |
2230 ÷ 223 | = | 10 | เหลือเศษ 0 |
2230 ÷ 446 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
2230 ÷ 1115 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
2230 ÷ 2230 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 2230
1 x 2230 | = | 2230 |
2 x 1115 | = | 2230 |
5 x 446 | = | 2230 |
10 x 223 | = | 2230 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 2230
1 + 2 + 5 + 10 + 223 + 446 + 1115 + 2230 = 4032
▶ ตัวประกอบของ 2230 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 5, 223
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 2230 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2230 = 2 x 5 x 223
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 2230 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 2230 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 2230 มา 1 คู่ เช่น 2 x 1115
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2230
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2230 แบบที่หนึ่ง
- 2230
- 10
- 2
- 5
- 223
- 10
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 2230 แบบที่สอง
- 2230
- 2
- 1115
- 5
- 223
ดังนั้น 2230 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2230 =
2 x 5 x 223
2. การแยกตัวประกอบของ 2230 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 2230 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 2230 นั้นก็คือ 2, 5, 223 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2230
2)22305)1115223)2231ดังนั้น 2230 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้2230 = 2 x 5 x 223วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 2230
1แยกตัวประกอบของ 2230 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 51 x 22312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 223 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 2230 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 2230 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 2230 นั้นก็คือ 2, 5, 223 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 2230
2
)2230
5
)1115
223
)223
1
ดังนั้น 2230 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
2230 = 2 x 5 x 223
1แยกตัวประกอบของ 2230 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 51 x 2231
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 223 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 2230 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 2230 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇