ตัวประกอบของ 18683 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 18683
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 18683 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 18683 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 18683 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 18683 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 18683 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 7, 17, 119, 157, 1099, 2669, 18683
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 18683 ÷ 1 | = | 18683 | เหลือเศษ 0 |
| 18683 ÷ 7 | = | 2669 | เหลือเศษ 0 |
| 18683 ÷ 17 | = | 1099 | เหลือเศษ 0 |
| 18683 ÷ 119 | = | 157 | เหลือเศษ 0 |
| 18683 ÷ 157 | = | 119 | เหลือเศษ 0 |
| 18683 ÷ 1099 | = | 17 | เหลือเศษ 0 |
| 18683 ÷ 2669 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
| 18683 ÷ 18683 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 18683
| 1 x 18683 | = | 18683 |
| 7 x 2669 | = | 18683 |
| 17 x 1099 | = | 18683 |
| 119 x 157 | = | 18683 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 18683
1 + 7 + 17 + 119 + 157 + 1099 + 2669 + 18683 = 22752
▶ ตัวประกอบของ 18683 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
7, 17, 157
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 18683 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
18683 = 7 x 17 x 157
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 18683 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 18683 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 18683 มา 1 คู่ เช่น 7 x 2669
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 18683
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 18683 แบบที่หนึ่ง
- 18683
- 119
- 7
- 17
- 157
- 119
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 18683 แบบที่สอง
- 18683
- 7
- 2669
- 17
- 157
ดังนั้น 18683 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
18683 =
7 x 17 x 157
2. การแยกตัวประกอบของ 18683 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 18683 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 18683 นั้นก็คือ 7, 17, 157 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 18683
7)1868317)2669157)1571ดังนั้น 18683 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้18683 = 7 x 17 x 157วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 18683
1แยกตัวประกอบของ 18683 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 71 x 171 x 15712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 157 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 18683 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 18683 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 18683 นั้นก็คือ 7, 17, 157 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 18683
7
)18683
17
)2669
157
)157
1
ดังนั้น 18683 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
18683 = 7 x 17 x 157
1แยกตัวประกอบของ 18683 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 71 x 171 x 1571
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 157 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 18683 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 18683 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇