โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 17397 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 17397

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 17397 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 17397 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 3, 9, 1933, 5799, 17397
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
17397 ÷ 1=17397เหลือเศษ 0
17397 ÷ 3=5799เหลือเศษ 0
17397 ÷ 9=1933เหลือเศษ 0
17397 ÷ 1933=9เหลือเศษ 0
17397 ÷ 5799=3เหลือเศษ 0
17397 ÷ 17397=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 17397
1 x 17397
3 x 5799
9 x 1933
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 17397
1 + 3 + 9 + 1933 + 5799 + 17397 = 25142
ตัวประกอบของ 17397 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
3, 1933
การแยกตัวประกอบคืออะไร

17397 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

17397 = 3 x 3 x 1933
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 17397 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
17397 = 32 x 1933
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 17397 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 17397 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 17397 มา 1 คู่ เช่น 3 x 5799
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 17397
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 17397 แบบที่หนึ่ง
  • 17397
    • 9
      • 3
      • 3
    • 1933

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 17397 แบบที่สอง
  • 17397
    • 3
    • 5799
      • 3
      • 1933
ดังนั้น 17397 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
17397 = 3 x 3 x 1933
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
17397 = 32 x 1933 หรือ 32 x 19331

2. การแยกตัวประกอบของ 17397 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 17397 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 17397 นั้นก็คือ 3, 1933 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 17397

3
)17397
3
)5799
1933
)1933
1
ดังนั้น 17397 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
17397 = 3 x 3 x 1933
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
17397 = 32 x 1933 หรือ 32 x 19331

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 17397

1แยกตัวประกอบของ 17397 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 32 x 19331
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 1933 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 17397 มีทั้งหมด 6 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 17397 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇