ตัวประกอบของ 1631 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 1631
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 1631 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 1631 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 1631 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 1631 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 1631 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 7, 233, 1631
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
1631 ÷ 1 | = | 1631 | เหลือเศษ 0 |
1631 ÷ 7 | = | 233 | เหลือเศษ 0 |
1631 ÷ 233 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
1631 ÷ 1631 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 1631
1 x 1631 | = | 1631 |
7 x 233 | = | 1631 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 1631
1 + 7 + 233 + 1631 = 1872
▶ ตัวประกอบของ 1631 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
7, 233
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 1631 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1631 = 7 x 233
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 1631 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 1631 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 1631 มา 1 คู่ เช่น 7 x 233
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1631
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 1631
- 1631
- 7
- 233
ดังนั้น 1631 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1631 =
7 x 233
2. การแยกตัวประกอบของ 1631 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 1631 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 1631 นั้นก็คือ 7, 233 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1631
7)1631233)2331ดังนั้น 1631 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้1631 = 7 x 233วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 1631
1แยกตัวประกอบของ 1631 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 71 x 23312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 233 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 1631 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 1631 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 1631 นั้นก็คือ 7, 233 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1631
7
)1631
233
)233
1
ดังนั้น 1631 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1631 = 7 x 233
1แยกตัวประกอบของ 1631 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 71 x 2331
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 233 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 1631 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 1631 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇