ตัวประกอบของ 1506 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 1506
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 1506 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 1506 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 1506 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 1506 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 1506 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 251, 502, 753, 1506
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
1506 ÷ 1 | = | 1506 | เหลือเศษ 0 |
1506 ÷ 2 | = | 753 | เหลือเศษ 0 |
1506 ÷ 3 | = | 502 | เหลือเศษ 0 |
1506 ÷ 6 | = | 251 | เหลือเศษ 0 |
1506 ÷ 251 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
1506 ÷ 502 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
1506 ÷ 753 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
1506 ÷ 1506 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 1506
1 x 1506 | = | 1506 |
2 x 753 | = | 1506 |
3 x 502 | = | 1506 |
6 x 251 | = | 1506 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 1506
1 + 2 + 3 + 6 + 251 + 502 + 753 + 1506 = 3024
▶ ตัวประกอบของ 1506 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 251
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 1506 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1506 = 2 x 3 x 251
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 1506 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 1506 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 1506 มา 1 คู่ เช่น 2 x 753
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1506
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 1506 แบบที่หนึ่ง
- 1506
- 6
- 2
- 3
- 251
- 6
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 1506 แบบที่สอง
- 1506
- 2
- 753
- 3
- 251
ดังนั้น 1506 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1506 =
2 x 3 x 251
2. การแยกตัวประกอบของ 1506 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 1506 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 1506 นั้นก็คือ 2, 3, 251 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1506
2)15063)753251)2511ดังนั้น 1506 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้1506 = 2 x 3 x 251วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 1506
1แยกตัวประกอบของ 1506 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 25112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 251 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 1506 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 1506 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 1506 นั้นก็คือ 2, 3, 251 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 1506
2
)1506
3
)753
251
)251
1
ดังนั้น 1506 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
1506 = 2 x 3 x 251
1แยกตัวประกอบของ 1506 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 31 x 2511
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 251 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 1506 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 1506 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇