ตัวประกอบของ 13265 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 13265
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 13265 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 13265 ได้ลงตัว
▶ 
 ▶ 
2. การแยกตัวประกอบของ 13265 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 13265 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 13265 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 5, 7, 35, 379, 1895, 2653, 13265
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 13265 ÷ 1 | = | 13265 | เหลือเศษ 0 | 
| 13265 ÷ 5 | = | 2653 | เหลือเศษ 0 | 
| 13265 ÷ 7 | = | 1895 | เหลือเศษ 0 | 
| 13265 ÷ 35 | = | 379 | เหลือเศษ 0 | 
| 13265 ÷ 379 | = | 35 | เหลือเศษ 0 | 
| 13265 ÷ 1895 | = | 7 | เหลือเศษ 0 | 
| 13265 ÷ 2653 | = | 5 | เหลือเศษ 0 | 
| 13265 ÷ 13265 | = | 1 | เหลือเศษ 0 | 
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 13265
| 1 x 13265 | = | 13265 | 
| 5 x 2653 | = | 13265 | 
| 7 x 1895 | = | 13265 | 
| 35 x 379 | = | 13265 | 
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 13265
1 + 5 + 7 + 35 + 379 + 1895 + 2653 + 13265 = 18240
 ▶ ตัวประกอบของ 13265 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3  ตัวดังนี้
5, 7, 379
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
 ▶ 13265 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
13265 = 5 x 7 x 379
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 13265 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 13265 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 13265 มา 1 คู่ เช่น 5 x 2653
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 13265
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 13265 แบบที่หนึ่ง
- 13265
- 35
- 5
 - 7
 
 - 379
 
 - 35
 
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 13265 แบบที่สอง
- 13265
- 5
 - 2653
- 7
 - 379
 
 
 
ดังนั้น 13265 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
13265 =
        5 x 7 x 379
2. การแยกตัวประกอบของ 13265 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 13265 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 13265 นั้นก็คือ 5, 7, 379 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 13265
5)132657)2653379)3791ดังนั้น 13265 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้13265 = 5 x 7 x 379วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 13265
1แยกตัวประกอบของ 13265 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 71 x 37912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
 - 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
 - 👉 379 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
 
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 13265 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 13265 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 13265 นั้นก็คือ 5, 7, 379 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 13265
5
)13265
7
)2653
379
)379
1
ดังนั้น 13265 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
13265 = 5 x 7 x 379
1แยกตัวประกอบของ 13265 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 71 x 3791
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
 - 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
 - 👉 379 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
 
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 13265 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 13265 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
