ตัวประกอบของ 13256 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 13256
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 13256 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 13256 ได้ลงตัว
▶ 
 ▶ 
2. การแยกตัวประกอบของ 13256 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 13256 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 13256 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 4, 8, 1657, 3314, 6628, 13256
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 13256 ÷ 1 | = | 13256 | เหลือเศษ 0 | 
| 13256 ÷ 2 | = | 6628 | เหลือเศษ 0 | 
| 13256 ÷ 4 | = | 3314 | เหลือเศษ 0 | 
| 13256 ÷ 8 | = | 1657 | เหลือเศษ 0 | 
| 13256 ÷ 1657 | = | 8 | เหลือเศษ 0 | 
| 13256 ÷ 3314 | = | 4 | เหลือเศษ 0 | 
| 13256 ÷ 6628 | = | 2 | เหลือเศษ 0 | 
| 13256 ÷ 13256 | = | 1 | เหลือเศษ 0 | 
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 13256
| 1 x 13256 | = | 13256 | 
| 2 x 6628 | = | 13256 | 
| 4 x 3314 | = | 13256 | 
| 8 x 1657 | = | 13256 | 
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 13256
1 + 2 + 4 + 8 + 1657 + 3314 + 6628 + 13256 = 24870
 ▶ ตัวประกอบของ 13256 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2  ตัวดังนี้
2, 1657
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
 ▶ 13256 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
13256 = 2 x 2 x 2 x 1657                                            
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 13256 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
13256 = 23 x 1657
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 13256 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
13256 = 23 x 1657
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 13256 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 13256 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 13256 มา 1 คู่ เช่น 2 x 6628
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 13256
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 13256 แบบที่หนึ่ง
- 13256
- 8
- 2
 - 4
- 2
 - 2
 
 
 - 1657
 
 - 8
 
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 13256 แบบที่สอง
- 13256
- 2
 - 6628
- 2
 - 3314
- 2
 - 1657
 
 
 
 
ดังนั้น 13256 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
13256 =
        2 x 2 x 2 x 1657
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
13256 =
      23 x 1657 หรือ 23 x 16571
2. การแยกตัวประกอบของ 13256 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 13256 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 13256 นั้นก็คือ 2, 1657 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 13256
2)132562)66282)33141657)16571ดังนั้น 13256 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้13256 = 2 x 2 x 2 x 1657หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง13256 = 23 x 1657 หรือ 23 x 16571วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 13256
1แยกตัวประกอบของ 13256 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 165712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
 - 👉 1657 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
 
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 13256 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 13256 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 13256 นั้นก็คือ 2, 1657 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 13256
2
)13256
2
)6628
2
)3314
1657
)1657
1
ดังนั้น 13256 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
13256 = 2 x 2 x 2 x 1657
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
13256 = 23 x 1657 หรือ 23 x 16571
1แยกตัวประกอบของ 13256 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 16571
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
 - 👉 1657 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
 
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 13256 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 13256 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
