โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 13005 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 13005

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 13005 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 13005 มีทั้งหมด 18 ตัวคือ 1, 3, 5, 9, 15, 17, 45, 51, 85, 153, 255, 289, 765, 867, 1445, 2601, 4335, 13005
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
13005 ÷ 1=13005เหลือเศษ 0
13005 ÷ 3=4335เหลือเศษ 0
13005 ÷ 5=2601เหลือเศษ 0
13005 ÷ 9=1445เหลือเศษ 0
13005 ÷ 15=867เหลือเศษ 0
13005 ÷ 17=765เหลือเศษ 0
13005 ÷ 45=289เหลือเศษ 0
13005 ÷ 51=255เหลือเศษ 0
13005 ÷ 85=153เหลือเศษ 0
13005 ÷ 153=85เหลือเศษ 0
13005 ÷ 255=51เหลือเศษ 0
13005 ÷ 289=45เหลือเศษ 0
13005 ÷ 765=17เหลือเศษ 0
13005 ÷ 867=15เหลือเศษ 0
13005 ÷ 1445=9เหลือเศษ 0
13005 ÷ 2601=5เหลือเศษ 0
13005 ÷ 4335=3เหลือเศษ 0
13005 ÷ 13005=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 13005
1 x 13005
3 x 4335
5 x 2601
9 x 1445
15 x 867
17 x 765
45 x 289
51 x 255
85 x 153
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 13005
1 + 3 + 5 + 9 + 15 + 17 + 45 + 51 + 85 + 153 + 255 + 289 + 765 + 867 + 1445 + 2601 + 4335 + 13005 = 23946
ตัวประกอบของ 13005 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 5, 17
การแยกตัวประกอบคืออะไร

13005 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

13005 = 3 x 3 x 5 x 17 x 17
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 13005 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
13005 = 32 x 5 x 172
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 13005 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 13005 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 13005 มา 1 คู่ เช่น 3 x 4335
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 13005
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 13005 แบบที่หนึ่ง
  • 13005
    • 85
      • 5
      • 17
    • 153
      • 9
        • 3
        • 3
      • 17

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 13005 แบบที่สอง
  • 13005
    • 3
    • 4335
      • 3
      • 1445
        • 5
        • 289
          • 17
          • 17
ดังนั้น 13005 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
13005 = 3 x 3 x 5 x 17 x 17
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
13005 = 32 x 5 x 172 หรือ 32 x 51 x 172

2. การแยกตัวประกอบของ 13005 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 13005 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 13005 นั้นก็คือ 3, 5, 17 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 13005

3
)13005
3
)4335
5
)1445
17
)289
17
)17
1
ดังนั้น 13005 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
13005 = 3 x 3 x 5 x 17 x 17
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
13005 = 32 x 5 x 172 หรือ 32 x 51 x 172

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 13005

1แยกตัวประกอบของ 13005 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 32 x 51 x 172
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 3 = 18
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 13005 มีทั้งหมด 18 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 13005 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇