ตัวประกอบของ 11705 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 11705
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 11705 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 11705 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 11705 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 11705 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 11705 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 5, 2341, 11705
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 11705 ÷ 1 | = | 11705 | เหลือเศษ 0 |
| 11705 ÷ 5 | = | 2341 | เหลือเศษ 0 |
| 11705 ÷ 2341 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
| 11705 ÷ 11705 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 11705
| 1 x 11705 | = | 11705 |
| 5 x 2341 | = | 11705 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 11705
1 + 5 + 2341 + 11705 = 14052
▶ ตัวประกอบของ 11705 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
5, 2341
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 11705 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
11705 = 5 x 2341
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 11705 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 11705 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 11705 มา 1 คู่ เช่น 5 x 2341
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 11705
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 11705
- 11705
- 5
- 2341
ดังนั้น 11705 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
11705 =
5 x 2341
2. การแยกตัวประกอบของ 11705 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 11705 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 11705 นั้นก็คือ 5, 2341 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 11705
5)117052341)23411ดังนั้น 11705 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้11705 = 5 x 2341วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 11705
1แยกตัวประกอบของ 11705 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 234112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 2341 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 11705 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 11705 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 11705 นั้นก็คือ 5, 2341 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 11705
5
)11705
2341
)2341
1
ดังนั้น 11705 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
11705 = 5 x 2341
1แยกตัวประกอบของ 11705 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 23411
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 2341 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 11705 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 11705 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇