โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 11656 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 11656

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 11656 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 11656 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 4, 8, 31, 47, 62, 94, 124, 188, 248, 376, 1457, 2914, 5828, 11656
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
11656 ÷ 1=11656เหลือเศษ 0
11656 ÷ 2=5828เหลือเศษ 0
11656 ÷ 4=2914เหลือเศษ 0
11656 ÷ 8=1457เหลือเศษ 0
11656 ÷ 31=376เหลือเศษ 0
11656 ÷ 47=248เหลือเศษ 0
11656 ÷ 62=188เหลือเศษ 0
11656 ÷ 94=124เหลือเศษ 0
11656 ÷ 124=94เหลือเศษ 0
11656 ÷ 188=62เหลือเศษ 0
11656 ÷ 248=47เหลือเศษ 0
11656 ÷ 376=31เหลือเศษ 0
11656 ÷ 1457=8เหลือเศษ 0
11656 ÷ 2914=4เหลือเศษ 0
11656 ÷ 5828=2เหลือเศษ 0
11656 ÷ 11656=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 11656
1 x 11656
2 x 5828
4 x 2914
8 x 1457
31 x 376
47 x 248
62 x 188
94 x 124
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 11656
1 + 2 + 4 + 8 + 31 + 47 + 62 + 94 + 124 + 188 + 248 + 376 + 1457 + 2914 + 5828 + 11656 = 23040
ตัวประกอบของ 11656 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 31, 47
การแยกตัวประกอบคืออะไร

11656 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

11656 = 2 x 2 x 2 x 31 x 47
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 11656 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
11656 = 23 x 31 x 47
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 11656 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 11656 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 11656 มา 1 คู่ เช่น 2 x 5828
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 11656
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 11656 แบบที่หนึ่ง
  • 11656
    • 94
      • 2
      • 47
    • 124
      • 4
        • 2
        • 2
      • 31

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 11656 แบบที่สอง
  • 11656
    • 2
    • 5828
      • 2
      • 2914
        • 2
        • 1457
          • 31
          • 47
ดังนั้น 11656 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
11656 = 2 x 2 x 2 x 31 x 47
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
11656 = 23 x 31 x 47 หรือ 23 x 311 x 471

2. การแยกตัวประกอบของ 11656 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 11656 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 11656 นั้นก็คือ 2, 31, 47 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 11656

2
)11656
2
)5828
2
)2914
31
)1457
47
)47
1
ดังนั้น 11656 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
11656 = 2 x 2 x 2 x 31 x 47
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
11656 = 23 x 31 x 47 หรือ 23 x 311 x 471

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 11656

1แยกตัวประกอบของ 11656 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 311 x 471
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 47 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 11656 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 11656 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇