ตัวประกอบของ 11477 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 11477
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 11477 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 11477 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 11477 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 11477 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 11477 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 23, 499, 11477
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 11477 ÷ 1 | = | 11477 | เหลือเศษ 0 |
| 11477 ÷ 23 | = | 499 | เหลือเศษ 0 |
| 11477 ÷ 499 | = | 23 | เหลือเศษ 0 |
| 11477 ÷ 11477 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 11477
| 1 x 11477 | = | 11477 |
| 23 x 499 | = | 11477 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 11477
1 + 23 + 499 + 11477 = 12000
▶ ตัวประกอบของ 11477 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
23, 499
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 11477 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
11477 = 23 x 499
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 11477 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 11477 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 11477 มา 1 คู่ เช่น 23 x 499
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 11477
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 11477
- 11477
- 23
- 499
ดังนั้น 11477 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
11477 =
23 x 499
2. การแยกตัวประกอบของ 11477 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 11477 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 11477 นั้นก็คือ 23, 499 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 11477
23)11477499)4991ดังนั้น 11477 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้11477 = 23 x 499วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 11477
1แยกตัวประกอบของ 11477 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 231 x 49912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 499 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 11477 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 11477 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 11477 นั้นก็คือ 23, 499 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 11477
23
)11477
499
)499
1
ดังนั้น 11477 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
11477 = 23 x 499
1แยกตัวประกอบของ 11477 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 231 x 4991
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 499 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 11477 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 11477 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇
