ตัวประกอบของ 8636 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 8636
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 8636 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 8636 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 8636 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 8636 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 8636 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 2, 4, 17, 34, 68, 127, 254, 508, 2159, 4318, 8636
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
8636 ÷ 1 | = | 8636 | เหลือเศษ 0 |
8636 ÷ 2 | = | 4318 | เหลือเศษ 0 |
8636 ÷ 4 | = | 2159 | เหลือเศษ 0 |
8636 ÷ 17 | = | 508 | เหลือเศษ 0 |
8636 ÷ 34 | = | 254 | เหลือเศษ 0 |
8636 ÷ 68 | = | 127 | เหลือเศษ 0 |
8636 ÷ 127 | = | 68 | เหลือเศษ 0 |
8636 ÷ 254 | = | 34 | เหลือเศษ 0 |
8636 ÷ 508 | = | 17 | เหลือเศษ 0 |
8636 ÷ 2159 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
8636 ÷ 4318 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
8636 ÷ 8636 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 8636
1 x 8636 | = | 8636 |
2 x 4318 | = | 8636 |
4 x 2159 | = | 8636 |
17 x 508 | = | 8636 |
34 x 254 | = | 8636 |
68 x 127 | = | 8636 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 8636
1 + 2 + 4 + 17 + 34 + 68 + 127 + 254 + 508 + 2159 + 4318 + 8636 = 16128
▶ ตัวประกอบของ 8636 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 17, 127
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 8636 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8636 = 2 x 2 x 17 x 127
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 8636 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
8636 = 22 x 17 x 127
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 8636 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
8636 = 22 x 17 x 127
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 8636 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 8636 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 8636 มา 1 คู่ เช่น 2 x 4318
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8636
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8636 แบบที่หนึ่ง
- 8636
- 68
- 4
- 2
- 2
- 17
- 4
- 127
- 68
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8636 แบบที่สอง
- 8636
- 2
- 4318
- 2
- 2159
- 17
- 127
ดังนั้น 8636 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8636 =
2 x 2 x 17 x 127
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
8636 =
22 x 17 x 127 หรือ 22 x 171 x 1271
2. การแยกตัวประกอบของ 8636 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 8636 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8636 นั้นก็คือ 2, 17, 127 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8636
2)86362)431817)2159127)1271ดังนั้น 8636 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้8636 = 2 x 2 x 17 x 127หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง8636 = 22 x 17 x 127 หรือ 22 x 171 x 1271วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 8636
1แยกตัวประกอบของ 8636 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 171 x 12712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 127 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 = 12✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8636 มีทั้งหมด 12 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 8636 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8636 นั้นก็คือ 2, 17, 127 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8636
2
)8636
2
)4318
17
)2159
127
)127
1
ดังนั้น 8636 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8636 = 2 x 2 x 17 x 127
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
8636 = 22 x 17 x 127 หรือ 22 x 171 x 1271
1แยกตัวประกอบของ 8636 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 171 x 1271
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 127 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 = 12✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8636 มีทั้งหมด 12 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 8636 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇