ตัวประกอบของ 8406 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 8406
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 8406 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 8406 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 8406 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 8406 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 8406 มีทั้งหมด 12 ตัวคือ 1, 2, 3, 6, 9, 18, 467, 934, 1401, 2802, 4203, 8406
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 8406 ÷ 1 | = | 8406 | เหลือเศษ 0 |
| 8406 ÷ 2 | = | 4203 | เหลือเศษ 0 |
| 8406 ÷ 3 | = | 2802 | เหลือเศษ 0 |
| 8406 ÷ 6 | = | 1401 | เหลือเศษ 0 |
| 8406 ÷ 9 | = | 934 | เหลือเศษ 0 |
| 8406 ÷ 18 | = | 467 | เหลือเศษ 0 |
| 8406 ÷ 467 | = | 18 | เหลือเศษ 0 |
| 8406 ÷ 934 | = | 9 | เหลือเศษ 0 |
| 8406 ÷ 1401 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
| 8406 ÷ 2802 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 8406 ÷ 4203 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 8406 ÷ 8406 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 8406
| 1 x 8406 | = | 8406 |
| 2 x 4203 | = | 8406 |
| 3 x 2802 | = | 8406 |
| 6 x 1401 | = | 8406 |
| 9 x 934 | = | 8406 |
| 18 x 467 | = | 8406 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 8406
1 + 2 + 3 + 6 + 9 + 18 + 467 + 934 + 1401 + 2802 + 4203 + 8406 = 18252
▶ ตัวประกอบของ 8406 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 467
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 8406 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8406 = 2 x 3 x 3 x 467
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 8406 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
8406 = 2 x 32 x 467
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 8406 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
8406 = 2 x 32 x 467
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 8406 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 8406 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 8406 มา 1 คู่ เช่น 2 x 4203
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8406
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8406 แบบที่หนึ่ง
- 8406
- 18
- 3
- 6
- 2
- 3
- 467
- 18
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8406 แบบที่สอง
- 8406
- 2
- 4203
- 3
- 1401
- 3
- 467
ดังนั้น 8406 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8406 =
2 x 3 x 3 x 467
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
8406 =
2 x 32 x 467 หรือ 21 x 32 x 4671
2. การแยกตัวประกอบของ 8406 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 8406 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8406 นั้นก็คือ 2, 3, 467 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8406
2)84063)42033)1401467)4671ดังนั้น 8406 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้8406 = 2 x 3 x 3 x 467หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง8406 = 2 x 32 x 467 หรือ 21 x 32 x 4671วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 8406
1แยกตัวประกอบของ 8406 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 32 x 46712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 467 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 = 12✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8406 มีทั้งหมด 12 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 8406 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8406 นั้นก็คือ 2, 3, 467 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8406
2
)8406
3
)4203
3
)1401
467
)467
1
ดังนั้น 8406 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8406 = 2 x 3 x 3 x 467
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
8406 = 2 x 32 x 467 หรือ 21 x 32 x 4671
1แยกตัวประกอบของ 8406 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 32 x 4671
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 467 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 3 x 2 = 12✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8406 มีทั้งหมด 12 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 8406 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇