ตัวประกอบของ 8230 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 8230
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 8230 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 8230 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 8230 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 8230 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 8230 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 2, 5, 10, 823, 1646, 4115, 8230
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
8230 ÷ 1 | = | 8230 | เหลือเศษ 0 |
8230 ÷ 2 | = | 4115 | เหลือเศษ 0 |
8230 ÷ 5 | = | 1646 | เหลือเศษ 0 |
8230 ÷ 10 | = | 823 | เหลือเศษ 0 |
8230 ÷ 823 | = | 10 | เหลือเศษ 0 |
8230 ÷ 1646 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
8230 ÷ 4115 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
8230 ÷ 8230 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 8230
1 x 8230 | = | 8230 |
2 x 4115 | = | 8230 |
5 x 1646 | = | 8230 |
10 x 823 | = | 8230 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 8230
1 + 2 + 5 + 10 + 823 + 1646 + 4115 + 8230 = 14832
▶ ตัวประกอบของ 8230 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 5, 823
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 8230 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8230 = 2 x 5 x 823
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 8230 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 8230 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 8230 มา 1 คู่ เช่น 2 x 4115
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8230
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8230 แบบที่หนึ่ง
- 8230
- 10
- 2
- 5
- 823
- 10
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 8230 แบบที่สอง
- 8230
- 2
- 4115
- 5
- 823
ดังนั้น 8230 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8230 =
2 x 5 x 823
2. การแยกตัวประกอบของ 8230 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 8230 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8230 นั้นก็คือ 2, 5, 823 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8230
2)82305)4115823)8231ดังนั้น 8230 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้8230 = 2 x 5 x 823วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 8230
1แยกตัวประกอบของ 8230 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 51 x 82312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 823 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8230 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 8230 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 8230 นั้นก็คือ 2, 5, 823 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 8230
2
)8230
5
)4115
823
)823
1
ดังนั้น 8230 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
8230 = 2 x 5 x 823
1แยกตัวประกอบของ 8230 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 51 x 8231
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 823 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 8230 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 8230 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇