โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 69952 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 69952

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 69952 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 69952 มีทั้งหมด 14 ตัวคือ 1, 2, 4, 8, 16, 32, 64, 1093, 2186, 4372, 8744, 17488, 34976, 69952
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
69952 ÷ 1=69952เหลือเศษ 0
69952 ÷ 2=34976เหลือเศษ 0
69952 ÷ 4=17488เหลือเศษ 0
69952 ÷ 8=8744เหลือเศษ 0
69952 ÷ 16=4372เหลือเศษ 0
69952 ÷ 32=2186เหลือเศษ 0
69952 ÷ 64=1093เหลือเศษ 0
69952 ÷ 1093=64เหลือเศษ 0
69952 ÷ 2186=32เหลือเศษ 0
69952 ÷ 4372=16เหลือเศษ 0
69952 ÷ 8744=8เหลือเศษ 0
69952 ÷ 17488=4เหลือเศษ 0
69952 ÷ 34976=2เหลือเศษ 0
69952 ÷ 69952=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 69952
1 x 69952
2 x 34976
4 x 17488
8 x 8744
16 x 4372
32 x 2186
64 x 1093
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 69952
1 + 2 + 4 + 8 + 16 + 32 + 64 + 1093 + 2186 + 4372 + 8744 + 17488 + 34976 + 69952 = 138938
ตัวประกอบของ 69952 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 1093
การแยกตัวประกอบคืออะไร

69952 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

69952 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 1093
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 69952 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
69952 = 26 x 1093
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 69952 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 69952 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 69952 มา 1 คู่ เช่น 2 x 34976
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 69952
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 69952 แบบที่หนึ่ง
  • 69952
    • 64
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
      • 8
        • 2
        • 4
          • 2
          • 2
    • 1093

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 69952 แบบที่สอง
  • 69952
    • 2
    • 34976
      • 2
      • 17488
        • 2
        • 8744
          • 2
          • 4372
            • 2
            • 2186
              • 2
              • 1093
ดังนั้น 69952 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
69952 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 1093
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
69952 = 26 x 1093 หรือ 26 x 10931

2. การแยกตัวประกอบของ 69952 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 69952 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 69952 นั้นก็คือ 2, 1093 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 69952

2
)69952
2
)34976
2
)17488
2
)8744
2
)4372
2
)2186
1093
)1093
1
ดังนั้น 69952 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
69952 = 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 2 x 1093
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
69952 = 26 x 1093 หรือ 26 x 10931

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 69952

1แยกตัวประกอบของ 69952 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 26 x 10931
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 6 ให้เอา 6 + 1 = 7
  • 👉 1093 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 7 x 2 = 14
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 69952 มีทั้งหมด 14 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 69952 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇