ตัวประกอบของ 69560 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 69560
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 69560 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 69560 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 69560 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 69560 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 69560 มีทั้งหมด 32 ตัวคือ 1, 2, 4, 5, 8, 10, 20, 37, 40, 47, 74, 94, 148, 185, 188, 235, 296, 370, 376, 470, 740, 940, 1480, 1739, 1880, 3478, 6956, 8695, 13912, 17390, 34780, 69560
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
69560 ÷ 1 | = | 69560 | เหลือเศษ 0 |
69560 ÷ 2 | = | 34780 | เหลือเศษ 0 |
69560 ÷ 4 | = | 17390 | เหลือเศษ 0 |
69560 ÷ 5 | = | 13912 | เหลือเศษ 0 |
69560 ÷ 8 | = | 8695 | เหลือเศษ 0 |
69560 ÷ 10 | = | 6956 | เหลือเศษ 0 |
69560 ÷ 20 | = | 3478 | เหลือเศษ 0 |
69560 ÷ 37 | = | 1880 | เหลือเศษ 0 |
69560 ÷ 40 | = | 1739 | เหลือเศษ 0 |
69560 ÷ 47 | = | 1480 | เหลือเศษ 0 |
69560 ÷ 74 | = | 940 | เหลือเศษ 0 |
69560 ÷ 94 | = | 740 | เหลือเศษ 0 |
69560 ÷ 148 | = | 470 | เหลือเศษ 0 |
69560 ÷ 185 | = | 376 | เหลือเศษ 0 |
69560 ÷ 188 | = | 370 | เหลือเศษ 0 |
69560 ÷ 235 | = | 296 | เหลือเศษ 0 |
69560 ÷ 296 | = | 235 | เหลือเศษ 0 |
69560 ÷ 370 | = | 188 | เหลือเศษ 0 |
69560 ÷ 376 | = | 185 | เหลือเศษ 0 |
69560 ÷ 470 | = | 148 | เหลือเศษ 0 |
69560 ÷ 740 | = | 94 | เหลือเศษ 0 |
69560 ÷ 940 | = | 74 | เหลือเศษ 0 |
69560 ÷ 1480 | = | 47 | เหลือเศษ 0 |
69560 ÷ 1739 | = | 40 | เหลือเศษ 0 |
69560 ÷ 1880 | = | 37 | เหลือเศษ 0 |
69560 ÷ 3478 | = | 20 | เหลือเศษ 0 |
69560 ÷ 6956 | = | 10 | เหลือเศษ 0 |
69560 ÷ 8695 | = | 8 | เหลือเศษ 0 |
69560 ÷ 13912 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
69560 ÷ 17390 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
69560 ÷ 34780 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
69560 ÷ 69560 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 69560
1 x 69560 | = | 69560 |
2 x 34780 | = | 69560 |
4 x 17390 | = | 69560 |
5 x 13912 | = | 69560 |
8 x 8695 | = | 69560 |
10 x 6956 | = | 69560 |
20 x 3478 | = | 69560 |
37 x 1880 | = | 69560 |
40 x 1739 | = | 69560 |
47 x 1480 | = | 69560 |
74 x 940 | = | 69560 |
94 x 740 | = | 69560 |
148 x 470 | = | 69560 |
185 x 376 | = | 69560 |
188 x 370 | = | 69560 |
235 x 296 | = | 69560 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 69560
1 + 2 + 4 + 5 + 8 + 10 + 20 + 37 + 40 + 47 + 74 + 94 + 148 + 185 + 188 + 235 + 296 + 370 + 376 + 470 + 740 + 940 + 1480 + 1739 + 1880 + 3478 + 6956 + 8695 + 13912 + 17390 + 34780 + 69560 = 164160
▶ ตัวประกอบของ 69560 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 5, 37, 47
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 69560 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
69560 = 2 x 2 x 2 x 5 x 37 x 47
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 69560 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
69560 = 23 x 5 x 37 x 47
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 69560 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
69560 = 23 x 5 x 37 x 47
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 69560 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 69560 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 69560 มา 1 คู่ เช่น 2 x 34780
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 69560
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 69560 แบบที่หนึ่ง
- 69560
- 235
- 5
- 47
- 296
- 8
- 2
- 4
- 2
- 2
- 37
- 8
- 235
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 69560 แบบที่สอง
- 69560
- 2
- 34780
- 2
- 17390
- 2
- 8695
- 5
- 1739
- 37
- 47
ดังนั้น 69560 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
69560 =
2 x 2 x 2 x 5 x 37 x 47
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
69560 =
23 x 5 x 37 x 47 หรือ 23 x 51 x 371 x 471
2. การแยกตัวประกอบของ 69560 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 69560 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 69560 นั้นก็คือ 2, 5, 37, 47 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 69560
2)695602)347802)173905)869537)173947)471ดังนั้น 69560 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้69560 = 2 x 2 x 2 x 5 x 37 x 47หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง69560 = 23 x 5 x 37 x 47 หรือ 23 x 51 x 371 x 471วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 69560
1แยกตัวประกอบของ 69560 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 51 x 371 x 4712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 37 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 47 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 x 2 = 32✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 69560 มีทั้งหมด 32 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 69560 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 69560 นั้นก็คือ 2, 5, 37, 47 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 69560
2
)69560
2
)34780
2
)17390
5
)8695
37
)1739
47
)47
1
ดังนั้น 69560 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
69560 = 2 x 2 x 2 x 5 x 37 x 47
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
69560 = 23 x 5 x 37 x 47 หรือ 23 x 51 x 371 x 471
1แยกตัวประกอบของ 69560 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 51 x 371 x 471
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 37 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 47 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 x 2 = 32✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 69560 มีทั้งหมด 32 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 69560 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇