ตัวประกอบของ 69468 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 69468
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 69468 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 69468 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 69468 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 69468 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 69468 มีทั้งหมด 24 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 6, 7, 12, 14, 21, 28, 42, 84, 827, 1654, 2481, 3308, 4962, 5789, 9924, 11578, 17367, 23156, 34734, 69468
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
69468 ÷ 1 | = | 69468 | เหลือเศษ 0 |
69468 ÷ 2 | = | 34734 | เหลือเศษ 0 |
69468 ÷ 3 | = | 23156 | เหลือเศษ 0 |
69468 ÷ 4 | = | 17367 | เหลือเศษ 0 |
69468 ÷ 6 | = | 11578 | เหลือเศษ 0 |
69468 ÷ 7 | = | 9924 | เหลือเศษ 0 |
69468 ÷ 12 | = | 5789 | เหลือเศษ 0 |
69468 ÷ 14 | = | 4962 | เหลือเศษ 0 |
69468 ÷ 21 | = | 3308 | เหลือเศษ 0 |
69468 ÷ 28 | = | 2481 | เหลือเศษ 0 |
69468 ÷ 42 | = | 1654 | เหลือเศษ 0 |
69468 ÷ 84 | = | 827 | เหลือเศษ 0 |
69468 ÷ 827 | = | 84 | เหลือเศษ 0 |
69468 ÷ 1654 | = | 42 | เหลือเศษ 0 |
69468 ÷ 2481 | = | 28 | เหลือเศษ 0 |
69468 ÷ 3308 | = | 21 | เหลือเศษ 0 |
69468 ÷ 4962 | = | 14 | เหลือเศษ 0 |
69468 ÷ 5789 | = | 12 | เหลือเศษ 0 |
69468 ÷ 9924 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
69468 ÷ 11578 | = | 6 | เหลือเศษ 0 |
69468 ÷ 17367 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
69468 ÷ 23156 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
69468 ÷ 34734 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
69468 ÷ 69468 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 69468
1 x 69468 | = | 69468 |
2 x 34734 | = | 69468 |
3 x 23156 | = | 69468 |
4 x 17367 | = | 69468 |
6 x 11578 | = | 69468 |
7 x 9924 | = | 69468 |
12 x 5789 | = | 69468 |
14 x 4962 | = | 69468 |
21 x 3308 | = | 69468 |
28 x 2481 | = | 69468 |
42 x 1654 | = | 69468 |
84 x 827 | = | 69468 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 69468
1 + 2 + 3 + 4 + 6 + 7 + 12 + 14 + 21 + 28 + 42 + 84 + 827 + 1654 + 2481 + 3308 + 4962 + 5789 + 9924 + 11578 + 17367 + 23156 + 34734 + 69468 = 185472
▶ ตัวประกอบของ 69468 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 3, 7, 827
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 69468 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
69468 = 2 x 2 x 3 x 7 x 827
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 69468 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
69468 = 22 x 3 x 7 x 827
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 69468 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
69468 = 22 x 3 x 7 x 827
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 69468 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 69468 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 69468 มา 1 คู่ เช่น 2 x 34734
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 69468
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 69468 แบบที่หนึ่ง
- 69468
- 84
- 7
- 12
- 3
- 4
- 2
- 2
- 827
- 84
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 69468 แบบที่สอง
- 69468
- 2
- 34734
- 2
- 17367
- 3
- 5789
- 7
- 827
ดังนั้น 69468 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
69468 =
2 x 2 x 3 x 7 x 827
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
69468 =
22 x 3 x 7 x 827 หรือ 22 x 31 x 71 x 8271
2. การแยกตัวประกอบของ 69468 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 69468 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 69468 นั้นก็คือ 2, 3, 7, 827 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 69468
2)694682)347343)173677)5789827)8271ดังนั้น 69468 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้69468 = 2 x 2 x 3 x 7 x 827หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง69468 = 22 x 3 x 7 x 827 หรือ 22 x 31 x 71 x 8271วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 69468
1แยกตัวประกอบของ 69468 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 31 x 71 x 82712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 827 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 x 2 = 24✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 69468 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 69468 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 69468 นั้นก็คือ 2, 3, 7, 827 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 69468
2
)69468
2
)34734
3
)17367
7
)5789
827
)827
1
ดังนั้น 69468 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
69468 = 2 x 2 x 3 x 7 x 827
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
69468 = 22 x 3 x 7 x 827 หรือ 22 x 31 x 71 x 8271
1แยกตัวประกอบของ 69468 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 31 x 71 x 8271
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 827 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 x 2 x 2 = 24✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 69468 มีทั้งหมด 24 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 69468 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇