ตัวประกอบของ 66052 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 66052
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 66052 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 66052 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 66052 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 66052 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 66052 มีทั้งหมด 18 ตัวคือ 1, 2, 4, 7, 14, 28, 49, 98, 196, 337, 674, 1348, 2359, 4718, 9436, 16513, 33026, 66052
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
66052 ÷ 1 | = | 66052 | เหลือเศษ 0 |
66052 ÷ 2 | = | 33026 | เหลือเศษ 0 |
66052 ÷ 4 | = | 16513 | เหลือเศษ 0 |
66052 ÷ 7 | = | 9436 | เหลือเศษ 0 |
66052 ÷ 14 | = | 4718 | เหลือเศษ 0 |
66052 ÷ 28 | = | 2359 | เหลือเศษ 0 |
66052 ÷ 49 | = | 1348 | เหลือเศษ 0 |
66052 ÷ 98 | = | 674 | เหลือเศษ 0 |
66052 ÷ 196 | = | 337 | เหลือเศษ 0 |
66052 ÷ 337 | = | 196 | เหลือเศษ 0 |
66052 ÷ 674 | = | 98 | เหลือเศษ 0 |
66052 ÷ 1348 | = | 49 | เหลือเศษ 0 |
66052 ÷ 2359 | = | 28 | เหลือเศษ 0 |
66052 ÷ 4718 | = | 14 | เหลือเศษ 0 |
66052 ÷ 9436 | = | 7 | เหลือเศษ 0 |
66052 ÷ 16513 | = | 4 | เหลือเศษ 0 |
66052 ÷ 33026 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
66052 ÷ 66052 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 66052
1 x 66052 | = | 66052 |
2 x 33026 | = | 66052 |
4 x 16513 | = | 66052 |
7 x 9436 | = | 66052 |
14 x 4718 | = | 66052 |
28 x 2359 | = | 66052 |
49 x 1348 | = | 66052 |
98 x 674 | = | 66052 |
196 x 337 | = | 66052 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 66052
1 + 2 + 4 + 7 + 14 + 28 + 49 + 98 + 196 + 337 + 674 + 1348 + 2359 + 4718 + 9436 + 16513 + 33026 + 66052 = 134862
▶ ตัวประกอบของ 66052 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 7, 337
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 66052 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
66052 = 2 x 2 x 7 x 7 x 337
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 66052 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
66052 = 22 x 72 x 337
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 66052 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
66052 = 22 x 72 x 337
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 66052 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 66052 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 66052 มา 1 คู่ เช่น 2 x 33026
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 66052
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 66052 แบบที่หนึ่ง
- 66052
- 196
- 14
- 2
- 7
- 14
- 2
- 7
- 14
- 337
- 196
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 66052 แบบที่สอง
- 66052
- 2
- 33026
- 2
- 16513
- 7
- 2359
- 7
- 337
ดังนั้น 66052 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
66052 =
2 x 2 x 7 x 7 x 337
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
66052 =
22 x 72 x 337 หรือ 22 x 72 x 3371
2. การแยกตัวประกอบของ 66052 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 66052 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 66052 นั้นก็คือ 2, 7, 337 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 66052
2)660522)330267)165137)2359337)3371ดังนั้น 66052 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้66052 = 2 x 2 x 7 x 7 x 337หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง66052 = 22 x 72 x 337 หรือ 22 x 72 x 3371วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 66052
1แยกตัวประกอบของ 66052 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 72 x 33712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 337 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 3 x 2 = 18✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 66052 มีทั้งหมด 18 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 66052 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 66052 นั้นก็คือ 2, 7, 337 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 66052
2
)66052
2
)33026
7
)16513
7
)2359
337
)337
1
ดังนั้น 66052 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
66052 = 2 x 2 x 7 x 7 x 337
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
66052 = 22 x 72 x 337 หรือ 22 x 72 x 3371
1แยกตัวประกอบของ 66052 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 72 x 3371
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
- 👉 337 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 3 x 2 = 18✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 66052 มีทั้งหมด 18 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 66052 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇