ตัวประกอบของ 66049 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 66049
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 66049 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 66049 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 66049 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 66049 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 66049 มีทั้งหมด 3 ตัวคือ 1, 257, 66049
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
66049 ÷ 1 | = | 66049 | เหลือเศษ 0 |
66049 ÷ 257 | = | 257 | เหลือเศษ 0 |
66049 ÷ 66049 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 66049
1 x 66049 | = | 66049 |
257 x 257 | = | 66049 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 66049
1 + 257 + 66049 = 66307
▶ ตัวประกอบของ 66049 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 1 ตัวดังนี้
257
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 66049 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
66049 = 257 x 257
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 66049 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
66049 = 2572
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 66049 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
66049 = 2572
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 66049 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 66049 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 66049 มา 1 คู่ เช่น 257 x 257
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 66049
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 66049
- 66049
- 257
- 257
ดังนั้น 66049 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
66049 =
257 x 257
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
66049 =
2572
2. การแยกตัวประกอบของ 66049 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 66049 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 66049 นั้นก็คือ 257 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 66049
257)66049257)2571ดังนั้น 66049 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้66049 = 257 x 257หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง66049 = 2572วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 66049
1แยกตัวประกอบของ 66049 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 25722ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 257 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกัน แต่เนื่องจากข้อนี้มีผลบวกของเลขชี้กำลัง คือ 3 แค่ 1 ตัวจึงไม่ต้องนำไปคูณกับจำนวนใดดังนั้นคำตอบคือ 3✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 66049 มีทั้งหมด 3 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 66049 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 66049 นั้นก็คือ 257 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 66049
257
)66049
257
)257
1
ดังนั้น 66049 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
66049 = 257 x 257
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
66049 = 2572
1แยกตัวประกอบของ 66049 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 2572
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 257 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกัน แต่เนื่องจากข้อนี้มีผลบวกของเลขชี้กำลัง คือ 3 แค่ 1 ตัวจึงไม่ต้องนำไปคูณกับจำนวนใดดังนั้นคำตอบคือ 3✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 66049 มีทั้งหมด 3 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 66049 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇