ตัวประกอบของ 65606 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65606
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 65606 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 65606 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 65606 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 65606 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 65606 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 2, 32803, 65606
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65606 ÷ 1 | = | 65606 | เหลือเศษ 0 |
65606 ÷ 2 | = | 32803 | เหลือเศษ 0 |
65606 ÷ 32803 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
65606 ÷ 65606 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65606
1 x 65606 | = | 65606 |
2 x 32803 | = | 65606 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65606
1 + 2 + 32803 + 65606 = 98412
▶ ตัวประกอบของ 65606 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 32803
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 65606 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65606 = 2 x 32803
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 65606 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65606 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65606 มา 1 คู่ เช่น 2 x 32803
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65606
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65606
- 65606
- 2
- 32803
ดังนั้น 65606 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65606 =
2 x 32803
2. การแยกตัวประกอบของ 65606 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 65606 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65606 นั้นก็คือ 2, 32803 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65606
2)6560632803)328031ดังนั้น 65606 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้65606 = 2 x 32803วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65606
1แยกตัวประกอบของ 65606 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 3280312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 32803 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65606 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 65606 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65606 นั้นก็คือ 2, 32803 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65606
2
)65606
32803
)32803
1
ดังนั้น 65606 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65606 = 2 x 32803
1แยกตัวประกอบของ 65606 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 328031
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 32803 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65606 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65606 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇