ตัวประกอบของ 65433 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65433
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 65433 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 65433 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 65433 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 65433 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 65433 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 17, 51, 1283, 3849, 21811, 65433
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
65433 ÷ 1 | = | 65433 | เหลือเศษ 0 |
65433 ÷ 3 | = | 21811 | เหลือเศษ 0 |
65433 ÷ 17 | = | 3849 | เหลือเศษ 0 |
65433 ÷ 51 | = | 1283 | เหลือเศษ 0 |
65433 ÷ 1283 | = | 51 | เหลือเศษ 0 |
65433 ÷ 3849 | = | 17 | เหลือเศษ 0 |
65433 ÷ 21811 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
65433 ÷ 65433 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65433
1 x 65433 | = | 65433 |
3 x 21811 | = | 65433 |
17 x 3849 | = | 65433 |
51 x 1283 | = | 65433 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65433
1 + 3 + 17 + 51 + 1283 + 3849 + 21811 + 65433 = 92448
▶ ตัวประกอบของ 65433 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 17, 1283
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 65433 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65433 = 3 x 17 x 1283
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 65433 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65433 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65433 มา 1 คู่ เช่น 3 x 21811
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65433
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65433 แบบที่หนึ่ง
- 65433
- 51
- 3
- 17
- 1283
- 51
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65433 แบบที่สอง
- 65433
- 3
- 21811
- 17
- 1283
ดังนั้น 65433 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65433 =
3 x 17 x 1283
2. การแยกตัวประกอบของ 65433 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 65433 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65433 นั้นก็คือ 3, 17, 1283 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65433
3)6543317)218111283)12831ดังนั้น 65433 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้65433 = 3 x 17 x 1283วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65433
1แยกตัวประกอบของ 65433 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 171 x 128312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1283 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65433 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 65433 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65433 นั้นก็คือ 3, 17, 1283 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65433
3
)65433
17
)21811
1283
)1283
1
ดังนั้น 65433 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65433 = 3 x 17 x 1283
1แยกตัวประกอบของ 65433 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 171 x 12831
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 17 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 1283 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65433 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65433 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇