ตัวประกอบของ 65143 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 65143
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 65143 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 65143 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 65143 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 65143 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 65143 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 13, 5011, 65143
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 65143 ÷ 1 | = | 65143 | เหลือเศษ 0 |
| 65143 ÷ 13 | = | 5011 | เหลือเศษ 0 |
| 65143 ÷ 5011 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
| 65143 ÷ 65143 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 65143
| 1 x 65143 | = | 65143 |
| 13 x 5011 | = | 65143 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 65143
1 + 13 + 5011 + 65143 = 70168
▶ ตัวประกอบของ 65143 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
13, 5011
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 65143 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65143 = 13 x 5011
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 65143 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 65143 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 65143 มา 1 คู่ เช่น 13 x 5011
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65143
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 65143
- 65143
- 13
- 5011
ดังนั้น 65143 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65143 =
13 x 5011
2. การแยกตัวประกอบของ 65143 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 65143 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65143 นั้นก็คือ 13, 5011 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65143
13)651435011)50111ดังนั้น 65143 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้65143 = 13 x 5011วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 65143
1แยกตัวประกอบของ 65143 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 131 x 501112ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5011 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65143 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 65143 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 65143 นั้นก็คือ 13, 5011 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 65143
13
)65143
5011
)5011
1
ดังนั้น 65143 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
65143 = 13 x 5011
1แยกตัวประกอบของ 65143 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 131 x 50111
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 5011 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 65143 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 65143 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇