โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 5736 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5736

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 5736 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 5736 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 3, 4, 6, 8, 12, 24, 239, 478, 717, 956, 1434, 1912, 2868, 5736
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5736 ÷ 1=5736เหลือเศษ 0
5736 ÷ 2=2868เหลือเศษ 0
5736 ÷ 3=1912เหลือเศษ 0
5736 ÷ 4=1434เหลือเศษ 0
5736 ÷ 6=956เหลือเศษ 0
5736 ÷ 8=717เหลือเศษ 0
5736 ÷ 12=478เหลือเศษ 0
5736 ÷ 24=239เหลือเศษ 0
5736 ÷ 239=24เหลือเศษ 0
5736 ÷ 478=12เหลือเศษ 0
5736 ÷ 717=8เหลือเศษ 0
5736 ÷ 956=6เหลือเศษ 0
5736 ÷ 1434=4เหลือเศษ 0
5736 ÷ 1912=3เหลือเศษ 0
5736 ÷ 2868=2เหลือเศษ 0
5736 ÷ 5736=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5736
1 x 5736
2 x 2868
3 x 1912
4 x 1434
6 x 956
8 x 717
12 x 478
24 x 239
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5736
1 + 2 + 3 + 4 + 6 + 8 + 12 + 24 + 239 + 478 + 717 + 956 + 1434 + 1912 + 2868 + 5736 = 14400
ตัวประกอบของ 5736 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
2, 3, 239
การแยกตัวประกอบคืออะไร

5736 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

5736 = 2 x 2 x 2 x 3 x 239
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 5736 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
5736 = 23 x 3 x 239
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 5736 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5736 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5736 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2868
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5736
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5736 แบบที่หนึ่ง
  • 5736
    • 24
      • 4
        • 2
        • 2
      • 6
        • 2
        • 3
    • 239

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5736 แบบที่สอง
  • 5736
    • 2
    • 2868
      • 2
      • 1434
        • 2
        • 717
          • 3
          • 239
ดังนั้น 5736 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5736 = 2 x 2 x 2 x 3 x 239
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5736 = 23 x 3 x 239 หรือ 23 x 31 x 2391

2. การแยกตัวประกอบของ 5736 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 5736 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5736 นั้นก็คือ 2, 3, 239 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5736

2
)5736
2
)2868
2
)1434
3
)717
239
)239
1
ดังนั้น 5736 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5736 = 2 x 2 x 2 x 3 x 239
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
5736 = 23 x 3 x 239 หรือ 23 x 31 x 2391

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5736

1แยกตัวประกอบของ 5736 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 23 x 31 x 2391
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 3 ให้เอา 3 + 1 = 4
  • 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 239 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 4 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5736 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5736 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇