ตัวประกอบของ 5735 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5735
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 5735 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 5735 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 5735 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 5735 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 5735 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 5, 31, 37, 155, 185, 1147, 5735
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5735 ÷ 1 | = | 5735 | เหลือเศษ 0 |
5735 ÷ 5 | = | 1147 | เหลือเศษ 0 |
5735 ÷ 31 | = | 185 | เหลือเศษ 0 |
5735 ÷ 37 | = | 155 | เหลือเศษ 0 |
5735 ÷ 155 | = | 37 | เหลือเศษ 0 |
5735 ÷ 185 | = | 31 | เหลือเศษ 0 |
5735 ÷ 1147 | = | 5 | เหลือเศษ 0 |
5735 ÷ 5735 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5735
1 x 5735 | = | 5735 |
5 x 1147 | = | 5735 |
31 x 185 | = | 5735 |
37 x 155 | = | 5735 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5735
1 + 5 + 31 + 37 + 155 + 185 + 1147 + 5735 = 7296
▶ ตัวประกอบของ 5735 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
5, 31, 37
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 5735 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5735 = 5 x 31 x 37
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 5735 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5735 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5735 มา 1 คู่ เช่น 5 x 1147
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5735
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5735 แบบที่หนึ่ง
- 5735
- 37
- 155
- 5
- 31
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5735 แบบที่สอง
- 5735
- 5
- 1147
- 31
- 37
ดังนั้น 5735 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5735 =
5 x 31 x 37
2. การแยกตัวประกอบของ 5735 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 5735 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5735 นั้นก็คือ 5, 31, 37 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5735
5)573531)114737)371ดังนั้น 5735 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้5735 = 5 x 31 x 37วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5735
1แยกตัวประกอบของ 5735 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 311 x 3712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 37 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5735 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 5735 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5735 นั้นก็คือ 5, 31, 37 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5735
5
)5735
31
)1147
37
)37
1
ดังนั้น 5735 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5735 = 5 x 31 x 37
1แยกตัวประกอบของ 5735 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 51 x 311 x 371
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 5 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 37 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5735 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5735 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇