ตัวประกอบของ 5727 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5727
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 5727 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 5727 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 5727 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 5727 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 5727 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 23, 69, 83, 249, 1909, 5727
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 5727 ÷ 1 | = | 5727 | เหลือเศษ 0 |
| 5727 ÷ 3 | = | 1909 | เหลือเศษ 0 |
| 5727 ÷ 23 | = | 249 | เหลือเศษ 0 |
| 5727 ÷ 69 | = | 83 | เหลือเศษ 0 |
| 5727 ÷ 83 | = | 69 | เหลือเศษ 0 |
| 5727 ÷ 249 | = | 23 | เหลือเศษ 0 |
| 5727 ÷ 1909 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
| 5727 ÷ 5727 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5727
| 1 x 5727 | = | 5727 |
| 3 x 1909 | = | 5727 |
| 23 x 249 | = | 5727 |
| 69 x 83 | = | 5727 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5727
1 + 3 + 23 + 69 + 83 + 249 + 1909 + 5727 = 8064
▶ ตัวประกอบของ 5727 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 23, 83
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 5727 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5727 = 3 x 23 x 83
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 5727 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5727 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5727 มา 1 คู่ เช่น 3 x 1909
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5727
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5727 แบบที่หนึ่ง
- 5727
- 69
- 3
- 23
- 83
- 69
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5727 แบบที่สอง
- 5727
- 3
- 1909
- 23
- 83
ดังนั้น 5727 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5727 =
3 x 23 x 83
2. การแยกตัวประกอบของ 5727 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 5727 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5727 นั้นก็คือ 3, 23, 83 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5727
3)572723)190983)831ดังนั้น 5727 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้5727 = 3 x 23 x 83วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5727
1แยกตัวประกอบของ 5727 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 231 x 8312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 83 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5727 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 5727 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5727 นั้นก็คือ 3, 23, 83 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5727
3
)5727
23
)1909
83
)83
1
ดังนั้น 5727 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5727 = 3 x 23 x 83
1แยกตัวประกอบของ 5727 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 231 x 831
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 23 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 83 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5727 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5727 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇