โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 5642 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 5642

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 5642 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 5642 มีทั้งหมด 16 ตัวคือ 1, 2, 7, 13, 14, 26, 31, 62, 91, 182, 217, 403, 434, 806, 2821, 5642
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
5642 ÷ 1=5642เหลือเศษ 0
5642 ÷ 2=2821เหลือเศษ 0
5642 ÷ 7=806เหลือเศษ 0
5642 ÷ 13=434เหลือเศษ 0
5642 ÷ 14=403เหลือเศษ 0
5642 ÷ 26=217เหลือเศษ 0
5642 ÷ 31=182เหลือเศษ 0
5642 ÷ 62=91เหลือเศษ 0
5642 ÷ 91=62เหลือเศษ 0
5642 ÷ 182=31เหลือเศษ 0
5642 ÷ 217=26เหลือเศษ 0
5642 ÷ 403=14เหลือเศษ 0
5642 ÷ 434=13เหลือเศษ 0
5642 ÷ 806=7เหลือเศษ 0
5642 ÷ 2821=2เหลือเศษ 0
5642 ÷ 5642=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 5642
1 x 5642
2 x 2821
7 x 806
13 x 434
14 x 403
26 x 217
31 x 182
62 x 91
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 5642
1 + 2 + 7 + 13 + 14 + 26 + 31 + 62 + 91 + 182 + 217 + 403 + 434 + 806 + 2821 + 5642 = 10752
ตัวประกอบของ 5642 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 4 ตัวดังนี้
2, 7, 13, 31
การแยกตัวประกอบคืออะไร

5642 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

5642 = 2 x 7 x 13 x 31
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 5642 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 5642 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 5642 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2821
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5642
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5642 แบบที่หนึ่ง
  • 5642
    • 62
      • 2
      • 31
    • 91
      • 7
      • 13

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 5642 แบบที่สอง
  • 5642
    • 2
    • 2821
      • 7
      • 403
        • 13
        • 31
ดังนั้น 5642 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5642 = 2 x 7 x 13 x 31

2. การแยกตัวประกอบของ 5642 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 5642 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 5642 นั้นก็คือ 2, 7, 13, 31 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 5642

2
)5642
7
)2821
13
)403
31
)31
1
ดังนั้น 5642 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
5642 = 2 x 7 x 13 x 31

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 5642

1แยกตัวประกอบของ 5642 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 71 x 131 x 311
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 7 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
  • 👉 31 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 x 2 = 16
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 5642 มีทั้งหมด 16 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 5642 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇