โปรแกรมหาตัวประกอบของจำนวนนับ
ใส่ตัวเลขที่ต้องการหาตัวประกอบ โปรแกรมจะแสดงคำตอบและวิธีการแยกตัวประกอบให้อัตโนมัติ
เทพควิช-lnwquiz

ตัวประกอบของ 4612 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 4612

คำนิยาม

ตัวประกอบของ 4612 มีอะไรบ้าง

ตัวประกอบของ 4612 มีทั้งหมด 6 ตัวคือ 1, 2, 4, 1153, 2306, 4612
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
4612 ÷ 1=4612เหลือเศษ 0
4612 ÷ 2=2306เหลือเศษ 0
4612 ÷ 4=1153เหลือเศษ 0
4612 ÷ 1153=4เหลือเศษ 0
4612 ÷ 2306=2เหลือเศษ 0
4612 ÷ 4612=1เหลือเศษ 0
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 4612
1 x 4612
2 x 2306
4 x 1153
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 4612
1 + 2 + 4 + 1153 + 2306 + 4612 = 8078
ตัวประกอบของ 4612 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 1153
การแยกตัวประกอบคืออะไร

4612 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้

4612 = 2 x 2 x 1153
จากผลการแยกตัวประกอบด้านบนจะเห็นว่ามีจำนวนบางจำนวนที่ซ้ำกัน ดังนั้นเราสามารถเขียนการแยกตัวประกอบของ 4612 ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังได้ดังนี้
4612 = 22 x 1153
วิธีการแยกตัวประกอบ

1. การแยกตัวประกอบของ 4612 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲

วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 4612 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 4612 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2306
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4612
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4612 แบบที่หนึ่ง
  • 4612
    • 4
      • 2
      • 2
    • 1153

ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4612 แบบที่สอง
  • 4612
    • 2
    • 2306
      • 2
      • 1153
ดังนั้น 4612 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4612 = 2 x 2 x 1153
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
4612 = 22 x 1153 หรือ 22 x 11531

2. การแยกตัวประกอบของ 4612 ด้วยวิธีหารสั้น

วิธีทำ
1หาร 4612 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4612 นั้นก็คือ 2, 1153 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4612

2
)4612
2
)2306
1153
)1153
1
ดังนั้น 4612 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4612 = 2 x 2 x 1153
หรือจะเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลัง
4612 = 22 x 1153 หรือ 22 x 11531

วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 4612

1แยกตัวประกอบของ 4612 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 22 x 11531
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
  • 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 2 ให้เอา 2 + 1 = 3
  • 👉 1153 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 3 x 2 = 6
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4612 มีทั้งหมด 6 ตัว
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 4612 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇