ตัวประกอบของ 4611 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 4611
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 4611 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 4611 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 4611 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 4611 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 4611 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 3, 29, 53, 87, 159, 1537, 4611
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
4611 ÷ 1 | = | 4611 | เหลือเศษ 0 |
4611 ÷ 3 | = | 1537 | เหลือเศษ 0 |
4611 ÷ 29 | = | 159 | เหลือเศษ 0 |
4611 ÷ 53 | = | 87 | เหลือเศษ 0 |
4611 ÷ 87 | = | 53 | เหลือเศษ 0 |
4611 ÷ 159 | = | 29 | เหลือเศษ 0 |
4611 ÷ 1537 | = | 3 | เหลือเศษ 0 |
4611 ÷ 4611 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 4611
1 x 4611 | = | 4611 |
3 x 1537 | = | 4611 |
29 x 159 | = | 4611 |
53 x 87 | = | 4611 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 4611
1 + 3 + 29 + 53 + 87 + 159 + 1537 + 4611 = 6480
▶ ตัวประกอบของ 4611 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
3, 29, 53
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 4611 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4611 = 3 x 29 x 53
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 4611 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 4611 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 4611 มา 1 คู่ เช่น 3 x 1537
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4611
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4611 แบบที่หนึ่ง
- 4611
- 53
- 87
- 3
- 29
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4611 แบบที่สอง
- 4611
- 3
- 1537
- 29
- 53
ดังนั้น 4611 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4611 =
3 x 29 x 53
2. การแยกตัวประกอบของ 4611 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 4611 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4611 นั้นก็คือ 3, 29, 53 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4611
3)461129)153753)531ดังนั้น 4611 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้4611 = 3 x 29 x 53วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 4611
1แยกตัวประกอบของ 4611 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 291 x 5312ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 53 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4611 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 4611 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4611 นั้นก็คือ 3, 29, 53 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4611
3
)4611
29
)1537
53
)53
1
ดังนั้น 4611 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4611 = 3 x 29 x 53
1แยกตัวประกอบของ 4611 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 31 x 291 x 531
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 3 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 53 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4611 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 4611 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇