ตัวประกอบของ 4574 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 4574
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 4574 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 4574 ได้ลงตัว
▶
▶ 2. การแยกตัวประกอบของ 4574 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 4574 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 4574 มีทั้งหมด 4 ตัวคือ 1, 2, 2287, 4574
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
| 4574 ÷ 1 | = | 4574 | เหลือเศษ 0 |
| 4574 ÷ 2 | = | 2287 | เหลือเศษ 0 |
| 4574 ÷ 2287 | = | 2 | เหลือเศษ 0 |
| 4574 ÷ 4574 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 4574
| 1 x 4574 | = | 4574 |
| 2 x 2287 | = | 4574 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 4574
1 + 2 + 2287 + 4574 = 6864
▶ ตัวประกอบของ 4574 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 2 ตัวดังนี้
2, 2287
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 4574 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4574 = 2 x 2287
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 4574 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 4574 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 4574 มา 1 คู่ เช่น 2 x 2287
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4574
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4574
- 4574
- 2
- 2287
ดังนั้น 4574 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4574 =
2 x 2287
2. การแยกตัวประกอบของ 4574 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 4574 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4574 นั้นก็คือ 2, 2287 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4574
2)45742287)22871ดังนั้น 4574 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้4574 = 2 x 2287วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 4574
1แยกตัวประกอบของ 4574 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 228712ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 2287 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4574 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 4574 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4574 นั้นก็คือ 2, 2287 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4574
2
)4574
2287
)2287
1
ดังนั้น 4574 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4574 = 2 x 2287
1แยกตัวประกอบของ 4574 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 21 x 22871
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 2 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 2287 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 = 4✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4574 มีทั้งหมด 4 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 4574 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇