ตัวประกอบของ 4147 และวิธีการแยกตัวประกอบของ 4147
คำนิยาม
ตัวประกอบของจำนวนนับใดๆ หมายถึง จำนวนนับที่หารจำนวนนับที่เรากำหนดให้ได้ลงตัว
ดังนั้นตัวประกอบของ 4147 หมายถึงจำนวนนับที่หาร 4147 ได้ลงตัว
▶
▶
2. การแยกตัวประกอบของ 4147 ด้วยวิธีหารสั้น
ตัวประกอบของ 4147 มีอะไรบ้าง
ตัวประกอบของ 4147 มีทั้งหมด 8 ตัวคือ 1, 11, 13, 29, 143, 319, 377, 4147
ตรวจคำตอบด้วยการหาร
4147 ÷ 1 | = | 4147 | เหลือเศษ 0 |
4147 ÷ 11 | = | 377 | เหลือเศษ 0 |
4147 ÷ 13 | = | 319 | เหลือเศษ 0 |
4147 ÷ 29 | = | 143 | เหลือเศษ 0 |
4147 ÷ 143 | = | 29 | เหลือเศษ 0 |
4147 ÷ 319 | = | 13 | เหลือเศษ 0 |
4147 ÷ 377 | = | 11 | เหลือเศษ 0 |
4147 ÷ 4147 | = | 1 | เหลือเศษ 0 |
ตรวจคำตอบด้วยการจับคู่หาจำนวนที่คูณกันได้ 4147
1 x 4147 | = | 4147 |
11 x 377 | = | 4147 |
13 x 319 | = | 4147 |
29 x 143 | = | 4147 |
ผลบวกของตัวประกอบทั้งหมดของ 4147
1 + 11 + 13 + 29 + 143 + 319 + 377 + 4147 = 5040
▶ ตัวประกอบของ 4147 ที่เป็นจำนวนเฉพาะมีทั้งหมด 3 ตัวดังนี้
11, 13, 29
จำนวนเฉพาะ (Prime number) คือ จำนวนนับที่มากกว่า 1 และมีตัวประกอบเพียงสองตัวคือ 1 และตัวมันเอง
ตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะ เรียกว่า "ตัวประกอบเฉพาะ"
การแยกตัวประกอบคืออะไร
การแยกตัวประกอบ คือ การเขียนจำนวนนับนั้นให้อยู่ในรูปการคูณของตัวประกอบเฉพาะ
▶ 4147 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4147 = 11 x 13 x 29
วิธีการแยกตัวประกอบ
1. การแยกตัวประกอบของ 4147 ด้วยวิธีแผนภาพต้นไม้🌲
วิธีทำ
1จำนวนที่โจทย์กำหนดมา คือ 4147 ดังนั้นให้หาจำนวนที่คูณกันได้ 4147 มา 1 คู่ เช่น 11 x 377
2พิจารณาว่าจำนวน 1 คู่ที่เลือกมาเป็นจำนวนเฉพาะหรือยัง
3ถ้าจำนวนใดยังไม่ใช่จำนวนเฉพาะให้หาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้น และให้เลือกเอาจำนวนที่คูณกันได้จำนวนนั้นมา 1 คู่(ทำคล้ายๆกับข้อที่ 1)
4ทำโดยใช้หลักการข้อที่ 2 และ 3 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจำนวนสุดท้ายจะเป็นจำนวนเฉพาะ
5เอาจำนวนเฉพาะทั้งหมดที่ได้มาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4147
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4147 แบบที่หนึ่ง
- 4147
- 29
- 143
- 11
- 13
ตัวอย่างแผนภาพต้นไม้ของ 4147 แบบที่สอง
- 4147
- 11
- 377
- 13
- 29
ดังนั้น 4147 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4147 =
11 x 13 x 29
2. การแยกตัวประกอบของ 4147 ด้วยวิธีหารสั้นวิธีทำ1หาร 4147 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4147 นั้นก็คือ 11, 13, 29 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 14นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4147
11)414713)37729)291ดังนั้น 4147 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้4147 = 11 x 13 x 29วิธีหาจำนวนตัวประกอบทั้งหมดของ 4147
1แยกตัวประกอบของ 4147 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 111 x 131 x 2912ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4147 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
วิธีทำ
1หาร 4147 ด้วยตัวประกอบเฉพาะของ 4147 นั้นก็คือ 11, 13, 29 (ในการหารแต่ละครั้งแนะนำให้ใช้ตัวประกอบเฉพาะที่มีค่าน้อยที่สุด)
2หากผลการหารที่ได้ยังไม่เท่ากับ 1 ให้นำผลการหารที่ได้ก่อนหน้านี้มาหารด้วยตัวประกอบเฉพาะอีกครั้ง
3ดำเนินการเช่นเดียวกับข้อ 2 ไปเรื่อยๆ จนกว่าผลหารสุดท้ายมีค่าเท่ากับ 1
4นำตัวหารทั้งหมดมาเขียนให้อยู่ในรูปการคูณก็จะได้เป็นการแยกตัวประกอบของ 4147
11
)4147
13
)377
29
)29
1
ดังนั้น 4147 สามารถแยกตัวประกอบได้ดังนี้
4147 = 11 x 13 x 29
1แยกตัวประกอบของ 4147 และเขียนให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังจะได้เท่ากับ 111 x 131 x 291
2ให้นำ 1 ไปบวกกับเลขชี้กำลังของตัวประกอบแต่ละตัวดังนี้
- 👉 11 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 13 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
- 👉 29 มีเลขชี้กำลังคือ 1 ให้เอา 1 + 1 = 2
3นำผลบวกของเลขชี้กำลังที่ได้มาคูณกันดังนี้ 2 x 2 x 2 = 8✔
คำตอบ ตัวประกอบทั้งหมดของ 4147 มีทั้งหมด 8 ตัว ✔
เมื่อคุณรู้ตัวประกอบและวิธีการแยกตัวประกอบของ 4147 แล้วลองแวะดูบทความอื่นๆที่น่าสนใจด้านล่างนี้ได้น่ะ 👇